‘เวียดนาม’เข้มสินค้าจีนเลี่ยงภาษีมะกัน

กรมศุลกากรเวียดนาม ประกาศผ่านเว็บไซต์เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า รัฐบาลจะดำเนินการปราบปรามสินค้าที่ผลิตจากจีนแต่ติดป้ายอย่างผิดกฎหมายว่า “ผลิตในเวียดนาม” โดยบรรดาผู้ส่งออกที่หาทางเลี่ยงภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้าจากจีนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ

ศุลกากรเวียดนามได้พบกรณีดังกล่าวจำนวนมากท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่ดำเนินอย่างต่อเนื่อง

“การปลอมแปลงแหล่งกำเนิดและการส่งสินค้าอย่างผิดกฎหมายเกิดขึ้นบ่อยครั้งในภาคส่วนเสื้อผ้า อาหารทะเล สินค้าทางการเกษตร กระเบื้อง น้ำผึ้ง เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียมและผลิตภัณฑ์จากไม้” กรมศุลกากรระบุ และเสริมว่าผู้นำเข้าบางส่วนได้เปลี่ยนหีบห่อสินค้าอย่างผิดกฎหมายจากจีน เป็นหีบห่อที่ตีตราว่า “ผลิตในเวียดนาม” และจากนั้นยื่นขอใบรับรองแหล่งกำเนิดเวียดนามเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น

กรมศุลกากรเวียดนามกำลังพัฒนากระบวนการในการระบุและกำหนดบทลงโทษกับธุรกิจที่ดำเนินการที่เป็นการละเมิดดังกล่าว

เวียดนามกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากสงครามการค้าระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ กำลังย้ายห่วงโซ่อุปทานออกจากจีนเพื่อเลี่ยงภาษีศุลกากร

เมื่อต้นเดือนนี้บริษัทโนมูระ โฮลดิ้งส์ของญี่ปุ่นเผยผลการวิเคราะห์ข้อมูลการค้า พบว่า เวียดนามได้รับผลประโยชน์จากสงครามการค้ามากกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างชัดเจน

เวียดนามพึ่งพาจีนในเรื่องวัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับการผลิตที่ใช้แรงงานคนเป็นหลักของประเทศ ขณะที่สหรัฐก็เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  นายฟาม บิ่น มินห์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวในที่ประชุมสมัชชาว่า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลเพื่อตอบสนองต่อสงครามการค้านี้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคอาเซียนโดยรายงานข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสถาบันผู้สอบบัญชีตามกฎหมายในอังกฤษและเวลส์ที่เผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่า เศรษฐกิจของเวียดนามจะเติบโต 6.7% ในปีนี้

เศรษฐกิจต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกเว้นเวียดนาม เผชิญกับภาวะขาลงของการส่งออกในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่การส่งออกของเวียดนามยังคงเติบโต แม้ชะลอตัวลงจากปี 2561 ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวคาดว่า แรงส่งทางเศรษฐกิจของเวียดนามน่าจะน้อยลง เนื่องจากความต้องการสินค้าที่ลดลงของจีน และลัทธิปกป้องการค้าที่ขยายวง