แถลงปิดคดีเหยื่อจำนำทองถูกเบี้ยว พบมีผู้เสียหาย 14 ราย

แถลงปิดคดีเหยื่อจำนำทองถูกเบี้ยว พบมีผู้เสียหาย 14 ราย

สตช.แถลงปิดคดีเหยื่อจำนำทองถูกเบี้ยว หลังมีผู้เสียหาย 14 ราย บุกร้องเรียน มูลค่าความเสียหาย 340,025 บาท

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 มิถุนายน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจ (รองผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รองผบช.ภ.1) พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผลก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงข่าวปิดคดีร้านรับจำนำทองคำ หลังมีผู้เสียหายกว่า 14 ราย ที่จำนำทองคำ หรือจ้างซ่อมทองไว้กับทางร้านทองแล้วไม่ได้คืน มูลค่าความเสียหายกว่า 340,025 บาท

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562 ส.ต.ต.พีระภัทร ถาบรรดิษฐ ได้นำสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น ไปจำนำกับร้านทองในราคา 2,000 บาท ซึ่งร้านทองตั้งอยู่ในพื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะ โดยทางส.ต.ต.พีระภัทร พยามยามไปไถ่ถอนสร้อยคืน แต่ทางร้านบ่ายเบี่ยงมาหลายครั้ง โดยให้เหตุผลว่าเจ้าของร้านไม่อยู่บ้าง ไม่มีกุญแจบ้าง จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ส.ต.ต.พีระภัทร ได้เดินทางไปยังร้านทองดังกล่าวพบ “เจ้หมวย” ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน แต่กลับบอกทางส.ต.ต.พีระภัทร ว่าไม่ได้เป็นเจ้าของร้าน ไม่สามารถนำทองออกมาให้ได้ ทำให้ ส.ต.ต.พีระภัทร จึงได้ไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ก จนมีการเผยแพร่และมีผู้เสียหายกว่า 14 ราย เข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน ว่าถูกร้านทองดังกล่าวกระทำในลักษณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ลงไปตรวจสอบ และสามารถไถ่ถอนกลับคืนมาให้ผู้เสียหายทั้ง 14 รายได้

พล.ต.ท.ปิยะ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สามารถยอมความได้ ซึ่งทางผู้เสียหายและร้านทองได้มีการไกล่เกลี่ยแล้ว แต่เนื่องจากทางกรมการปกครองได้ลงไปตรวจสอบพบว่า ร้านทองดังกล่าวมีใบประกอบการค้าของเก่า และได้หมดอายุไปเมื่อปลายปี จึงได้ทำการแจ้งข้อหาค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต