กสอ.หนุนอุตฯเครื่องสำอาง ยกระดับคลัสเตอร์การผลิต

กสอ.หนุนอุตฯเครื่องสำอาง ยกระดับคลัสเตอร์การผลิต

เผยอุตฯเครื่องสำอางส่งออกโต 15% มูลค่ากว่า 6.2 หมื่นล้านบาท เร่งหนุนเอสเอ็มอียกระดับมาตรฐานสู่เครื่องสำอางอินทรีย์ รวมกลุ่มคลัสเตอร์พัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดเครื่องสำอางมีการแข่งขันค่อนข้างสูง จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่าตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากแรงหนุนทั้งอุปสงค์และอุปทาน โดยในปี พ.ศ. 2560 ตลาดเครื่องสำอางไทยมีมูลค่าโดยรวมประมาณ 2.51 แสนล้านบาท แยกเป็นตลาดในประเทศ 1.68 แสนล้านบาท เติบโต 7.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน 

ทั้งนี้มีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องสำอางมากที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 46.8% ขณะเดียวกันการส่งออกเครื่องสำอางไทยไปยังตลาดโลกมีมูลค่าประมาณ 8.3 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561 มีการส่งออกเครื่องสำอางของไทยมีมูลค่ากว่า 6.2 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 15.1% โดยมีตลาดที่สำคัญ ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และจีน

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเองต้องพัฒนาสินสินค้าให้มีคุณภาพ มาตรฐาน โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่มมากขึ้น เช่น เครื่องสำอางสำหรับเด็ก ผู้ชาย ผู้สูงอายุ เครื่องสำอางจากวัตถุดิบธรรมชาติ หรือ เกษตรอินทรีย์ และเครื่องสำอางจากสมุนไพรไทย 

ขณะที่ กสอ. ได้ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา และช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการเครื่องสำอางสู่การเป็นผู้ประกอบการเครื่องสำอางอินทรีย์ โดยจัดกิจกรรมโครงการเตรียมความพร้อมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ปรับปรุงกระบวนการผลิตด้วยนวัตกรรม พัฒนาบรรจุภัณฑ์ และยกระดับมาตรฐานสินค้าเช่น มาตรฐานเครื่องสำอางอินทรีย์ COSMOS เพื่อสร้างความเชื่อมั่น

นอกจากนี้ ยังเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางของไทยให้ก้าวสู่ตลาดโลก และสามารถแข่งขันกับประเทศผู้นำด้านเครื่องสำอางได้ต่อไป รวมทั้งยังบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องสำอางผ่านการดำเนินงานในรูปแบบการรวมกลุ่มทางอุตสาหกรรม หรือ คลัสเตอร์ ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2558 และปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมากกว่า 30 กิจการ