ตลาดเป็นบวก โดยเคลื่อนไหวระหว่างประเด็นสงครามการค้าและลดดอกเบี้ย

ตลาดเป็นบวก โดยเคลื่อนไหวระหว่างประเด็นสงครามการค้าและลดดอกเบี้ย

สงครามการค้าผ่อนคลายลงในช่วงสั้น

สหรัฐฯ มีแนวโน้มเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก หลังประธานาธิปดีทรัมป์เห็นความพยายามของเม็กซิโกในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ขณะที่เลื่อนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่จะถึงกำหนด 1 มิ.ย. เป็น 15 มิ.ย. (และน่าจะเป็นหลัง G20 ในวันที่ 28-29 มิ.ย.)  ทำให้ความกังวลสงครามการค้าระยะสั้นผ่อนคลายลง

ความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น การรายงานตัวเลขการจ้างงงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payroll) เดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 75,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าเม.ย.ที่ 224,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่ค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.2% MoM และ 3.1% YoY ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มรายปีที่ชะลอลงจากช่วงก่อนหน้า ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจที่อาจกระทบจากสงครามกาค้า ทำให้ตลาดมองเฟดมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงในการประชุมรอบ ก.ค.หรือก.ย.นี้

สถานการณ์ภายนอกมีผลเหนือการเมืองในประเทศ แม้การเมืองในประเทศยังคงมีความวุ่นวายจากการเกลี่ยตำแหน่งรมว. ทำให้เกิดความกังวลต่อการตัดตั้งรัฐบาลที่ดำเนินอยู่ แต่แนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด เป็นสภาวะที่ช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลง (downside) ของการลงทุนในระยะสั้น ทำให้ SET มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1670-1680 จุด

เลือกเก็งกำไรรายตัว เน้นหุ้นที่ **ยังไม่ขึ้น** ในกลุ่มบริโภคในประเทศ ปลอดภัย หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำนาน ทยอยสะสมโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยยังคงความระมัดระวังในการเก็งกำไรเชิงตั้งรับ และรอจังหวะทยอยสะสม GPSC, CPF, TU, GFPT, SAWAD, AEONTS, TK, GCAP, AMANAH, PSH, AP, SPALI หรือกลุ่มที่ผลการดำเนินงานมั่นคง อาทิ WHART, FTREIT, EGATIF, EASTW, GUNKUL*, SSP*, AQUA* / ปิโตรเคมี โรงกลั่น ลงมาจนต่ำกว่าหรือใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี อาทิ TOP (61.82), PTTGC (66.94), IRPC (4.29), BCP (31.15) โดยเฉพาะ TOP และ PTTGC

ภาพรวมกลยุทธ์: โอกาสปรับลดดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ช่วยจำกัด downside และทำให้ตลาดมีโอกาสแกว่งไป 1660-1680 จุด ระวังแรงทำกำไรในกลุ่มที่ขึ้นมามาก (การเงินและกองทุนฯ) การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยังขึ้นไม่มากและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำวันนี้ PTTGC, CPF* เก็งกำไร EASTW* (เป้า 13 ตัดขาดทุน 11.70), TK* (เป้า 12 ตัดขาดทุน 10)

แนวรับ 1645 / แนวต้าน : 1670-1680 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

G20 เห็นพ้องผลักดันเกณฑ์ภาษีบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ – กลุ่ม G20 เห็นพ้องผลักดันกฎเกณฑ์ด้านภาษีสำหรับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ทั่วโลก คาดส่งผลให้บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ อาทิ FB, Google, Amazon มีภาระทางภาษีเพิ่มขึ้น

AI, AIE - กลับมาทำการซื้อขายภายหลังพ้นเหตุเพิกถอน ทั้งนี้ราคาหุ้น AI ซื้อขายวันสุดท้าย 15 พ.ค.58 ปิดที่ 1.52 บาท ระหว่าง 3 ปี ที่ถูกพักการซื้อขาย มีการจ่ายปันผลออกมา 0.22 บาท ทำให้ต้นทุนของคนมีหุ้นต่ำสุดจะอยู่ที่ 1.30 บาท หากประเมินกำไรเบื้องต้นปี 62 ที่ 400 ล้านบาท หรือ 0.14 บาท/หุ้น และ PER 10-15 เท่า กรอบราคาซื้อขายของ AI จะอยู่ที่ 1.40-2.10 บาท

FTSE SET Mid Cap - ตลท.เผยนำ TFFIF-EGATIF-COM7 เข้าคำนวณใน FTSE SET Mid Cap Index มีผล 24 มิ.ย.

หุ้นเข้า SET50/SET100 - หุ้นที่คาดว่าจะเข้า-ออก SET50: เข้า (+): OSP SAWAD / ออก (-): DELTA BPP //หุ้นที่คาดว่าจะเข้า-ออก SET100: เข้า (+): OSP JAS BEC ITD JMT SVI / ออก (-): WHAUP BEAUTY ANAN TKN PSL WORK

ประเด็นติดตาม: 10 มิ.ย. – ตัวเลขการค้าจีน เดือน พ.ค., 13 มิ.ย. – OPEC monthly report, 14 มิ.ย. – ตัวเลขดัชนีค้าปลีกจีน และ Industrial production เดือน พ.ค. / IEA monthly report

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)