'หญิงหน่อย' โต้กระแสข่าวลือ คิดแยกตัวจากพรรคเพื่อไทย

'หญิงหน่อย' โต้กระแสข่าวลือ คิดแยกตัวจากพรรคเพื่อไทย

“หญิงหน่อย” โต้กระแสข่าวลือ คิดแยกตัวจากพรรคเพื่อไทยตั้งพรรคใหม่ จี้เร่งต่อรองให้จบจะได้ทำงานเพื่อประชาชน

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.62 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงบทบาทและการวางอนาคตทางการเมืองหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น โดยย้ำว่า วันแรกที่ตัดสินใจกลับเข้ามาที่พรรคเพื่อไทยและทำงานการเมือง เพราะสถานการณ์ของพรรคในช่วงนั้นอยู่ในช่วงที่จะต้องมีผู้นำมาทำให้พรรคมีความเข้มแข็ง หากเปรียบเหมือนบ้านก็เป็นบ้านที่ถูกระเบิดจนหลังคาบ้านพัง ทุกคนจึงต้องหันหลังกลับเข้ามาซ่อมแซมบ้านของตัวเองให้แข็งแกร่ง ซึ่งส่วนตัวก็ได้ทำเต็มที่ตั้งแต่วันแรกของการประกาศว่าจะมีการเลือกตั้ง จนถึงวันสุดท้ายที่มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นวันจบภารกิจ พร้อมย้ำว่าแม้จะไม่ได้เป็นอะไรหรือมีตำแหน่งสำคัญทางการเมืองต้น ก็พร้อมจะเป็นกองเชียร์และผู้สนับสนุนทำให้พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคที่เป็นที่พึ่งของประชาชนมากขึ้น

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะออกไปตั้งพรรคใหม่นั้น ยืนยันว่า ไม่เคยมีความคิดที่จะแยกตัวออกไปจากพรรคเพื่อไทยและจะยังอยู่กับพรรค เพราะตลอดชีวิตของการเป็นนักการเมืองหลาย 10 ปีอิ่มตัวกับการเมืองมากแล้ว จึงไม่เคยมีความคิดที่จะย้ายบ้าน และไม่ได้จะวางมือจากการเมืองอย่างที่เป็นข่าว

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่ยังมีการต่อรองไม่จบของพรรคร่วมรัฐบาล ว่าได้ตามข่าวตามสื่อเห็นบางพรรคลงโซเชียล ในทำนองว่าแลกกระทรวงไม่ได้ ซึ่งดูแล้วรัฐบาลที่มีจุดอ่อนเสียงปริ่มน้ำการทำงานก็จะยาก อีกทั้งมีพรรคร่วมรัฐบาลมากถึง 20 พรรค ซึ่งจะทำให้การทำงานร่วมกันลำบากมากไปอีก ขณะเดียวกันพรรคขนาดใหญ่และกลางที่มาจับมือกัน นโยบายที่เป็นจุดยืนของแต่ละพรรคจะเอายังไง รวมทั้งผลประโยชน์ ต่อรองกระทรวง จนไปถึงผลประโยชน์ต่างๆ ในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ภาพเหล่านี้คนรุ่นใหม่อาจจะไม่เคยเห็น แต่นี่คือภาพการเมืองเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว สิ่งที่เกิดเป็นเพียงหนังตัวอย่าง และเมื่อทำงานจริงความยากลำบากจะมีให้เห็นมากขึ้น และคนที่จะเอ็นทุกข์ก็คือประชาชน จึงอยากให้รีบต่อรองกันให้จบเพื่อจะได้มาทำงานให้ประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึง ความเหนียวแน่นของ 7 พรรคการเมือง ว่า ยังผนึกกำลังเหนียวแน่น และจะเดินหน้าทำงานตรวจสอบอย่างมีคุณภาพ เป็นฝ่ายค้านที่มีเหตุมีผล หากทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ไม่มีทุจริต พวกเราก็พร้อมสนับสนุน ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ไม่ได้เป็นเพราะ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ บกพร่อง เพราะหลายปีได้ทุ่มเทมาตลอด แต่เพราะเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญระบุไว้ผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็นหัวหน้าพรรคที่เป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ พรรคจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามเงื่อนไขทางการเมือง ซึ่งในสัปดาหน้าจะประชุมเพื่อเลือกกันใหม่ ขณะเดียวกันเห็นว่าจากนี้ไปพรรคเพื่อไทยจะต้องทำการเมืองเพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น เพราะเห็นได้จากการเปิดรัฐสภาอภิปรายเลือกนายกรัฐมนตรี และประธานสภาผู้แทนราษฎร มีประชาชนให้ความสนใจและแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียมาก หากเปลี่ยนแล้วทำให้ทุกอย่างดีขึ้นก็ต้องทำ เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่อยู่ในใจประชาชนและประชาชนเข้าถึง