'หญิงหน่อย' เปิดเกมรุก พา 7 ส.ส.ลงพื้นที่โคราช ลั่นทำงานไม่รอแล้ว

'หญิงหน่อย' เปิดเกมรุก พา 7 ส.ส.ลงพื้นที่โคราช ลั่นทำงานไม่รอแล้ว

"สุดารัตน์" โพสต์เปิดเกมรุก พา 7 ส.ส.ลงพื้นที่โคราช ลั่นทำงานไม่รอแล้ว

เมื่อเวลา 09.13 น. วันที่ 9 มิ.ย.62 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan" ระบุว่า เกษตรอินทรีย์ : วิถีการทำเกษตรที่ต้องเร่งผลักให้เกิดขึ้นจริงทั่วประเทศ #ทำงานต่อไม่รอแล้วนะ

เมื่อวานนี้ยกกันไปโคราชกันเป็นทีมค่ะ ไปพร้อมกับ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรค, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่, นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส. จังหวัดร้อยเอ็ด, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ และนางสาวชนก จันทาทอง ส.ส. จังหวัดหนองคาย, นางวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส. เชียงราย, นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส. ขอนแก่น, นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ เขตบางกระปิ และนายวรพล บวรลัทพล อดีตผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดนครราชสีมา เขต 11

จุดแรกที่ไป คือแวะเยี่ยมชม “ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร” (ศพก.) ที่ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.โคราช โดยมีประธานศูนย์ คือ “คุณประจวบ คุ้มทรัพย์” มาเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาและกิจกรรมของศูนย์แห่งนี้

ศูนย์แห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับฝึกอบรมและให้ความรู้แก่เกษตรกร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าเกษตร โดยหัวใจหลักคือการเปลี่ยนให้เกษตรกรหันมาทำ #เกษตรอินทรีย์ ด้วยการใช้สารชีวพันธุ์ที่ผลิตได้เอง ลดและเลิกการใช้สารเคมี เพื่อคุณภาพชีวิตของทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค

เมื่อเกษตรกรหันมาทำเกษตรอินทรีย์ จะช่วยลดต้นทุนการทำเกษตรที่แต่เดิมต้องเสียเงินจำนวนมากไปกับการซื้อสารเคมี เช่น มีสอนการทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อประโยชน์หลากหลายรูปแบบ และการหมักเชื้อราที่ใช้ป้องกันรากเน่าโคนเน่า

ศูนย์แห่งนี้ยังสอนวิธีการ #แปรรูปผลผลิตจากสินค้าเกษตร เพื่อยกระดับสินค้าและเพิ่มราคาขายให้สูงขึ้น เช่น แปรรูปมะขามให้กลายเป็นมะขามแช่อิ่ม สามารถเพิ่มราคาขาย จากกิโลกรัมละ 40 บาท เมื่อแปรรูปแล้วสามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 100 บาท

แม้จะมีเนื้อที่เพียง 4 ไร่ แต่ศูนย์แห่งนี้ซึ่งมีดินที่อุดมสมบูรณ์มาก กลับสามารถปลูกพืชการเกษตรได้หลากหลายชนิดและปลูกได้ผลที่มีคุณภาพดี ทั้งทุเรียนหมอนทอง น้อยหน่าเพชรปากช่อง มะม่วงเขียวสามรส มะขาม แก้วมังกร ฯลฯ และยังมีการทำบ่อเลี้ยงปลาดุกขนาดย่อม ที่ยาวเพียง 2×4 เมตรแต่สามารถเลี้ยงปลาดุกได้ถึง 500 ตัว

การทำเกษตรอินทรีย์ในเนื้อที่เพียงเท่านี้สร้างรายที่มั่นคงให้กับพี่ประจวบ จนสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขององค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 แถมยังมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีเพราะปลูกพืชโดยไม่ใช้สารเคมี

นี่ถือเป็นตัวอย่างของวิถีการทำเกษตรที่น่าชื่นชมและควรมาศึกษาเรียนรู้เพื่อใช้เป็นแบบอย่าง

พี่น้องท่านใดสนใจอยากมาดูงาน อยากมาช่วยอุดหนุนสินค้าเกษตรหลากหลายชนิดที่ปลอดสารพิษและราคาไม่แพง สามารถติดต่อพี่ประจวบได้ที่เบอร์ 083-3743015 นะคะ