คาดพักไม่แรงก่อนฟื้นต่อ หลังทรัมป์จะตัดสินใจเก็บภาษีจีนหลังประชุม G20

ตลาดหุ้นยุโรปปรับลดลง หลัง ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น ด้วยแรงหนุนจากข่าวว่าสหรัฐฯ อาจเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก ที่จะประกาศใช้ในวันที่ 10 มิ.ย. ทั้งนี้ประธานาธิปดีทรัมป์ จะตัดสินใจเรื่องเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 3.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังการประชุม G20 ซึ่งทำให้ในช่วงสั้นตลาดจะไม่มีปัจจัยเสี่ยงใหม่เข้ามา ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่บวกต่อตลาด

การปรับลดกำลังการผลิตของโอเปคมีความท้าทาย กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะมีการประชุมในวันที่ 25-26 มิ.ย.นี้ เพื่อตัดสินใจเรื่องการลดกำลังการผลิตในครึ่งปีหลัง ขณะที่มาตรการควบคุมกำลังการผลิตเดิมมีกำหนดถึงสิ้นมิ.ย.นี้ ซึ่งเรามองการประชุมครั้งนี้มีความท้าทายจากกำลังการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจทำให้กลุ่มโอเปคปรับเปลี่ยนนโยบายการลดกำลังการผลิต ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาน้ำมัน ทั้งนี้เรามอง PTTGC และ TOP เข้าสู่เขตที่น่าสนใจลงทุน

กลุ่มอาหารได้ประโยชน์จากสงครามการค้า แม้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศ พ.ค.ลดลงเหลือ 77.7 ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ขณะที่ธ.ก.ส.คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตร มิ.ย.62 ข้าวเปลือกหอมมะลิ-น้ำตาลทรายดิบ-เนื้อหมู ราคาเพิ่มขึ้น ขณะที่ยางพาราแผ่นดิบ-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-น้ำมันปาล์ม ราคาลดลง สถานการณ์ดังกล่าวบวกต่อกลุ่มอาหารโดยเฉพาะเนื้อสัตว์ในภาพรวมยังดูดีทั้งจากราคาขายที่ดีและต้นทุนการผลิตที่ลดลง โดยหุ้นในกลุ่มนี้ที่เราชอบคือ CPF ขณะที่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มอื่น ได้อานิสงค์จากฤดูกาล ชอบ M และ SAPPE

เลือกเก็งกำไรรายตัว เน้นหุ้นที่ **ยังไม่ขึ้น** ในกลุ่มบริโภคในประเทศ ปลอดภัย หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำนาน ทยอยสะสมโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยยังคงความระมัดระวังในการเก็งกำไรเชิงตั้งรับ และรอจังหวะทยอยสะสม GPSC, CPF, TU, GFPT, SAWAD, AEONTS, TK, GCAP, AMANAH, PSH, AP, SPALI หรือกลุ่มที่ผลการดำเนินงานมั่นคง อาทิ WHART, FTREIT, EGATIF, EASTW, GUNKUL*, SSP*, AQUA* / ปิโตรเคมี โรงกลั่น ลงมาจนต่ำกว่าหรือใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี อาทิ TOP (61.82), PTTGC (66.94), IRPC (4.29), BCP (31.15) โดยเฉพาะ TOP และ PTTGC

ภาพรวมกลยุทธ์: การเลื่อนตัดสินใจเก็บภาษีจีนไปหลัง G20 ประกอบกับโอกาสลดดอกเบี้ยของเฟด ทำให้ตลาดมีโอกาสแกว่งไป 1660-1680 จุด ระวังแรงทำกำไรในกลุ่มที่ขึ้นมามาก (การเงินและกองทุนฯ) การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยังขึ้นไม่มากและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำวันนี้ AMATA, CPF* เก็งกำไร EASTW* (เป้า 13 ตัดขาดทุน 11.70), TK* (เป้า 12 ตัดขาดทุน 10)

แนวรับ 1631 / แนวต้าน : 1650 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

ECB ตรึงดอกเบี้ย แต่ไม่ส่งสัญญาณเพิ่มความผ่อนคลาย – ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิมที่ 0% และคาดว่าจะยังคงตรึงดอกเบี้ยต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 63 อย่างไรก็ตาม ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินตามสหรัฐฯอย่างที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์กันไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ พร้อมปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อขึ้น

AI-AIE กลับมาซื้อขาย 10 มิ.ย. – ตลท.อนุมัติให้หุ้นพ้นเหตุแห่งการเพิกถอนและปลด SP โดยหุ้นจะกลับมาซื้อขาย 10 มิ.ย. โดยตลท.ขอให้นักลงทุนศึกษาข้อมูลจากสรุปข้อสนเทศของทั้งสองบริษัท 29 พ.ค.62

PPS (Not rated) – เพิ่มทุน RO 171.97 ล้านหุ้น PP 85.95 ล้านหุ้น

 

ประเด็นติดตาม: 10 มิ.ย. – ตัวเลขการค้าจีน เดือน พ.ค., 13 มิ.ย. – OPEC monthly report, 14 มิ.ย. – ตัวเลขดัชนีค้าปลีกจีน และ Industrial production เดือน พ.ค. / IEA monthly report

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)