'พรเพชร' มั่นใจไม่มีเหตุชะลอ ทูลเกล้าชื่อ 'ประยุทธ์'​ เป็นนายกฯ

'พรเพชร' มั่นใจไม่มีเหตุชะลอ ทูลเกล้าชื่อ 'ประยุทธ์'​ เป็นนายกฯ

ชี้ฝ่าฟันวิกฤตหนักมาแล้ว ยืนยัน ส.ว. โหวตหัวหน้า คสช. นั่งนายกฯ ไม่ใช่ผลประโยชน์ขัดกัน

ที่รัฐสภาชั่วคราว หอประชุมบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ​รองประธานรัฐสภาและประธานวุฒิสภา มั่นใจว่ากระบวนการนำชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าที่นายกฯ ที่รัฐสภาลงมติเสียงข้างมากให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว เมื่อกลางดึกวันที่ 5 มิถุนายน จะไม่มีเหตุให้เกิดกระบวนการชะลอการนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้ง แม้จะมีสมาชิกรัฐสภา อภิปรายทักท้วงต่อคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดีหากสมาชิกรัฐสภาจะใช้สิทธิ์ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติหลังจากนี้ สามารถทำได้โดยเอกสิทธิ์ แต่เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติภายใต้เสียงข้างมากเลือกให้พล.อ.ประยุทธ์ แล้วกระบวนการต้องดำเนินไปตามขั้นตอน เพราะหากอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติถูกโต้แย้ง ประเทศอาจจะลำบาก เพราะ1ใน3ของอำนาจอธิปไตยถูกโต้แย้ง

นายพรเพชร กล่าวด้วยว่าสำหรับการบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ หลังจากนั้น ตนเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ 5 ปี และภายใต้แผนยุทศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศจะดำเนินไปได้ แม้หลายฝ่ายมองว่าการบริหารราชการแผ่นดินหลังจากรับตำแหน่งจะมีความวุ่นวายและขัดแย้ง

“ผมเชื่อมั่นในความสามารถของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะในสถานการณ์ที่ย่ำแย่กว่านี้ เช่น ปี 2557 ที่ขัดแย้งรุนแรงยังสามารถฝ่าฟันได้ ส่วนการวิจารณ์เรื่องคุณสมบัตินั้นผมมองว่าเป็นเพียงความคับข้องใจของสมาชิกเท่านั้น ทั้งนี้ภายใต้องค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจนสิ้นสุดแล้ว” นายพรเพชร กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายส.ส.เตรียมยื่นตรวจสอบการทำหน้าที่ของส.ว. ที่ลงมติสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นผลประโยชน์ขัดกัน นายพรเพชร กล่าวยืนยันว่า ไม่มีผลประโยชน์ที่ขัดกัน เพราะเป็นปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ส่วนที่ระบุว่าบทกำหนดในมาตรฐานจริยธรรมเขียนไว้เรื่องการใช้อำนาจที่ไม่มีผลประโยชน์ขัดกันเพราะลงมติให้กับคนที่แต่งตั้งมานั้น ในสากลทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ช่วงประธานาธิบดี ริชาร์ด นิก สัน ที่แต่งผู้พิพากษาสูงสุด แต่เมื่อมีคดีวอร์เตอร์เกต การทำหน้าที่ของผู้พิพากษาสูงสุดยังทำหน้าที่ได้โดยอิสระ ซึ่งยืนยันว่าการลงมติของส.ว.นั้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่มีประเด็นที่ขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมตรงไหน