จบโหวตนายกฯ กลุ่มสามมิตรรุกทวง 'เกษตร-คมนาคม'

จบโหวตนายกฯ กลุ่มสามมิตรรุกทวง 'เกษตร-คมนาคม'

"ส.ส.พปชร." กลุ่มสามมิตรมีส.ส.ราว30คน วอนผู้ใหญ่ในพรรคเก็บกระทรวงสำคัญ สานนโยบายหาเสียงรักษาสัญญาปชช. ลั่น "เกษตร-คมนาคม" ต้องอยู่ในมือ

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมรัฐสภาลงมติเสียงข้างมากเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ในฐานะตัวแทน ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ มีความรู้สึกภาคภูมิใจที่สมาชิกรัฐสภาเคารพเสียงของประชาชน และมีมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นายกฯของพรรคพลังประชารัฐ เป็นไปตามมติมหาชนผ่านคะแนนเสียง 8.4 ล้านเสียงของพรรคพลังประชารัฐ มากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ภายหลังที่พรรคพลังประชารัฐสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นั่นหมายถึงประเทศของเรานั้นกำลังเดินไปข้างหน้า ตามระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง

นายสิระ เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ภายในพรรคพลังประชารัฐ มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับกระแสข่าวการแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการจับเคลื่อนนโยบายที่พวกเราได้ไปหาเสียงไว้กับประชาชนทั่วประเทศ จึงอยากฝากไปยัง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ผู้ได้รับมอบหมายเจรจาประสานงานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาล ว่าเราในฐานะแกนหลักของรัฐบาล ต้องได้ดูแลกระทรวงสำคัญต่างๆ เพื่อสานงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งขับเคลื่อนงานนโยบายที่ได้หาเสียงไว้

“พรรคพลังประชารัฐ ควรได้ดูแลในส่วนกระทรวงสำคัญที่ดูแลในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ซึ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้ริเริ่มไว้หลายโครงการ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาพืชผลทางการเกษตร ที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน” นายสิระ ระบุ

นายสิระ กล่าวอีกว่า กระแสข่าวที่ออกมา ทำให้บรรดา ส.ส.ของพรรคเกิดความสับสนในเรื่องการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะมีแนวโน้มที่พรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้ดูแลกระทรวงที่สามารถทำงานเข้าถึงประชาชนได้อย่างแท้จริง ประกอบกับจะเกิดปัญหาในระยะยาวเพราะเรานั้นไม่สามารถทำงานตามที่รับปากกับประชาชนได้ ผู้ใหญ่ในพรรคต้องให้ความสำคัญว่า พรรคเราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ หากจะทำการเมืองต่อไปต้องดูแลภาคเกษตร ไม่ว่าจะเป็นชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ พืชผลทางการเกษตร ส.ป.ก.4.0 ซึ่ง ส.ส.ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยเพราะเราเคยหาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชน หากเราไม่ได้เข้าไปดูแลกระทรวงเกษตรฯ จะไม่สามารถผลักดันโครงการต่างๆได้อย่างเต็มที่

“อยากให้ผู้บริหารพรรค และกรรมการบริหารพรรคทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เราเคยรับปากกับประชาชนในการหาเสียงไว้ด้วย เพราะนโยบายเหล่านี้ทำให้เราได้ ส.ส.ถึง 116 ที่นั่ง อีกทั้งเป็นเพียงพรรคเดียวที่มี ส.ส.มาจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เราไม่ควรที่จะโกหกประชาชนและควรปกป้องสิทธิในฐานะพรรคแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล” นายสิระ ระบุ

ทั้งนี้ นายสิระ ส.ส.พปชร. ที่ออกมาแถลงนั้น ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสามมิตร ซึ่งมีการระบุว่า กลุ่มนี้มีส.ส.20-30คน

วันเดียวกัน นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในฐานะอดีตกลุ่มสามมิตร ซึ่งก่อตั้งและ ได้เดินทางปราศรัยและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วประเทศมาก่อนที่จะเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ได้สัมผัสและรับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตรกรมาตลอด จึงมีความเห็นว่า นโยบายด้านการเกษตร ถือเป็นภารกิจสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องขับเคลื่อนโดยเร่งด่วน เพื่อคลี่คลายวิกฤตความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน พวกเราจึงเห็นว่าควรมีคนของพรรคพลังประชารัฐ เข้ารับตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ ส่วนการพิจารณาบุคคลใดที่มีความเหมาะสมนั้นถือเป็นอำนาจของนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาล.