สต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งฉุดราคาเวสต์เท็กซัสทรุดกว่า3%

สต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งฉุดราคาเวสต์เท็กซัสทรุดกว่า3%

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพุธ (5มิ.ย.)ปรับตัวลง3.4% หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางคาดการณ์ลดลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 3.4%  ปิดที่ราคา 50.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 1.31 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ราคา 60.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 6.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 849,000 บาร์เรล

ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 208,000 บาร์เรล นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.08 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันยังถูกกดดัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งการที่บริษัทผลิตน้ำมันของรัสเซียออกโรงคัดค้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ขยายการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้

นายอิกอร์ เซชิน ประธานบริษัทรอสเนฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียควรผลิตน้ำมันตามที่ต้องการ และเขาจะเรียกร้องการชดเชยจากรัฐบาล หากรัสเซียร่วมกับโอเปกในการขยายการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้

ขณะเดียวกัน สหรัฐได้เพิ่มการผลิตน้ำมันสู่ระดับ 12.3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. โดยเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก เทียบกับระดับ 11.11 ล้านบาร์เรล/วันของรัสเซีย และ 9.65 ล้านบาร์เรล/วันของซาอุดีอาระเบีย