บอร์ด สปสช.อนุมัติวัคซีนหัด คางทูม หัดเยอรมัน แสนโด๊ส หนุน คร. รุกแผนกำจัดโรคหัด ปี 62

บอร์ด สปสช.อนุมัติวัคซีนหัด คางทูม หัดเยอรมัน แสนโด๊ส หนุน คร. รุกแผนกำจัดโรคหัด ปี 62

บอร์ด สปสช.อนุมัติ รพ.ราชวิถี หนุน วัคซีนหัด คางทูม หัดเยอรมันแสนโด๊ส ร่วมมือ คร. รุกกำจัดโรคหัด เพื่อกลุ่มประชากรยังไม่ได้รับวัคซีน เริ่มส่งมอบส.ค. นี้ ยืนยันไม่กระทบแผนการสร้างภูมิคุ้มกันประชาชนในระบบปกติ

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ประชุมเห็นชอบให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยเครือข่ายหน่วยบริการโรงพยาบาลราชวิถีสนับสนุนวัคซีนหัด คางทูม หัดเยอรมัน (Measles–Mumps–Rubella Vaccine : MMR) ให้กับกรมควบคุมโรค จำนวน 1 แสนโด๊ส เพื่อใช้ใน “โครงการรณรงค์ให้วัคซีนหัดตามแผนเร่งรัดการกำจัดโรคหัดของประเทศไทย ปีงบประมาณ 2562”

ศ.นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยพบการแพร่ระบาดโรคหัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2560 มีรายงานผู้ป่วย 1,449 ราย สูงกว่าปี 2559 ถึง 2 เท่า และปี 2561 มีผู้ป่วย 2,925 ราย เสียชีวิต 3 ราย โดยมีแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่รับวัคซีนไม่ครบเกณฑ์ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มระบาดมากขึ้นในคนอายุ 20-40 ปี ที่อยู่รวมกันเป็นหมู่มาก ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและให้บรรลุเป้าหมายการกำจัดโรคหัดให้สำเร็จทั่วทั้งภูมิภาคภายในปี 2563 ตามมติการประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งที่ 63 ซึ่งไทยกำหนดเป้าหมายให้อุบัติการณ์ของโรคหัดไม่เกิน 1 ต่อประชากรล้านคน และไม่มีการติดเชื้อภายในประเทศ (Zero Endemic Case) ในปี 2563

โดยการเพิ่มและรักษาระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีน MMR เป็นหนึ่งในมาตรการเร่งรัดกำจัดโรคหัดที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอของบประมาณจัดซื้อวัคซีน MMR 93.41 ล้านบาท โดยได้รับอนุมัติจากสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง 54.15 ล้านบาท ในส่วนที่เหลือให้ สปสช. โดยเครือข่ายหน่วยบริการโรงพยาบาลราชวิถีสนับสนุนวัคซีนMMR ให้กับกรมควบคุมโรค 1 แสนโด๊ส เป็นงบประมาณ 22.25 ล้านบาท และที่ประชุมบอร์ด สปสช.ได้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณได้แจ้ง และเป็นไปตามที่คณะอนุกรรมการนโยบายและยุทศาสตร์ สปสช.นำเสนอ ทั้งนี้จะดำเนินการได้ในเดือนสิงหาคม 2562 เพื่อเก็บตกกลุ่มเป้าหมายเด็กไทยอายุ 0-7 ปี ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนตามปกติ และผู้ที่อยู่รวมเป็นหมู่มาก เช่น เรือนจำ ค่ายทหาร และโรงงาน เป็นต้น โดยไม่มีผลกระทบต่อแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในระบบตามปกติ

“บอร์ด สปสช.เล็งเห็นความสำคัญในการยกระดับการป้องกันและลดการแพร่ระบาดโรคหัด เพิ่มความครอบคลุมการเข้าถึงวัคซีน MMR ในกลุ่มที่ประชากรที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เพื่อร่วมผลักดันโครงการรณรงค์ให้วัคซีนหัดตามแผนเร่งรัดการกำจัดโรคหัดของประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย ทั้งเป็นการดูแลสุขภาพผู้มีสิทธิ ที่เป็นหนึ่งในภารกิจภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” รมว.สาธารณสุข กล่าว