กระทรวงการต่างประเทศ นำคณะนักธุรกิจไทย ลงพื้นที่สำรวจตลาดการค้าในเม็กซิโก บราซิล และชิลี หวังแลกเปลี่ยนการค้า และดึงดูด 3 ชาติตลาดใหญ่ละตินอเมริกาลงทุนในอีอีซี
กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ จัดโครงการละตินลิงค์ (Latin Link) นำโดยนางภัทราวรรณ เวชชศาสตร์ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะ และนายทรงศัก สายเชื้อ อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้นำคณะนักธุรกิจไทย อาทิ ปตท. เครือเจริญโภคภัณฑ์ เครือใบหยก และธนาคารกรุงเทพ เป็นต้น ตลอดจนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รวมกว่า 20 แห่ง ได้ร่วมกันเดินทางไปยังประเทศเม็กซิโก บราซิล และชิลี ระหว่างวันที่ 1-11 มิ.ย.2562 เพื่อแสวงหาความร่วมมือทางการค้า และสำรวจตลาดส่งออกสินค้าไทยในประเทศกลุ่มละตินอเมริกา ให้เพิ่มมากขึ้น
นางภัทราวรรณ กล่าวว่า การนำคณะนักธุรกิจไทยเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ มุ่งรักษาความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกด้าน กับประเทศในละตินอเมริกา ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมตลาดใหม่ของรัฐบาลไทย ได้แก่ บราซิล ประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย และเม็กซิโก ประเทศคู่ค้าอันดับสอง และเป็นสมาชิกเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ รวมถึงชิลี โดยที่ผ่านมาไทยได้ประโยชน์จากเอฟทีเอไทย-ชิลี
“โครงการละตินลิงค์ที่จัดขึ้น มุ่งเพิ่มโอกาสให้กับภาครัฐและเอกชนของประเทศทั้ง 3 ประเทศ และช่วยให้รับรู้ข้อมูลและกฎหมายการค้าการลงทุน ตลอดจนมาตรการจูงใจนักลงทุนต่างชาติโดยตรงจากหน่วยงานของประเทศนั้นๆ ขณะเดียวกัน ยังทำให้เกิดแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางธุรกิจ ที่นำไปสู่การส่งเสริมความเข้าใจ และดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้สนใจเข้ามาลงทุนในอีอีซี อีกด้วย”
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 1 - 4 มิ.ย. กระทรวงได้นำคณะที่ร่วมโครงการละตินลิงค์ เดินทางลงพื้นที่สำรวจตลาด และประเมินศักยภาพตลาดท้องถิ่น รวมทั้งรับทราบเทรนด์การค้าที่น่าสนใจในประเทศแม็กซิโก อย่าง การสำรวจตลาดที่กรีน คอนเนอร์ ซูเปอร์มาร์เก็ต พบว่า ความนิยมของสินค้าออแกนิกส์ในเม็กซิโกซึ่งเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ซื้อที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงที่ให้ความสำคัญสุขภาพ อีกทั้งราคาสินค้าที่ค่อนข้างสูงไม่ใช่ปัจจัยที่สะท้อนระดับความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ผลกำไรมีแนวโน้มสูงเพราะขายสินค้าได้ราคาสูง นอกจากนี้ ประเภทสินค้าที่วางขาย ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรและสินค้าที่มีวัตถุดิบจากธรรมชาติที่เป็นสินค้าท้องถิ่นของเม็กซิโกและในประเทศอื่นของละตินอเมริกา อาทิ สมุนไพรเมกาของเปรูที่เพิ่มสมรรถภาพทางเพศแทนไวอาก้า มันฝรั่งทอดกรอบของเม็กซิโก และสินค้าพืชผักผลไม้ รวมทั้งอาหารซูเปอร์ เช่น กินัว
ดังนั้นจะเห็นว่า สินค้าที่ทำจากสมุนไพรและแปรรูปโดยไบโอเทค มีโอกาสนนำเข้ามาขายในตลาดเม็กซิโกเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ผู้บริโภคเลือกจับจ่ายได้ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของการนำสินค้าในกลุ่มสมุนไพรและออแกนิกส์ของไทยเข้ามาขายในเม็กซิโก ได้แก่ ความรู้เรื่องกฏระเบียบการนำเข้าที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะกับสินค้าออแกนิกส์ที่ต้องได้รับการรับรองเฉพาะ
นอกจากนี้ คณะของโครงการละตินลิงค์ได้เข้าพบกับซีอีโอของกูเม อิมพอร์ต ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้า และศูนย์กระจายสินค้าประเภทอาหารเอเชียในเม็กซิโก ซึ่งทราบว่า ชาวแม็กซิโกส่วนหนึ่งสนใจและนิยมสินค้าบริโภคจากไทย โดยบริษัทกูเมได้นำเข้าสินค้าจากไทยประมาณ 3 คอนเทนเนอร์ต่อเดือน ให้ส่งมาทางเรือแบบ mixed products ในหนึ่งคอนเทนเนอร์
ด้านนางสาวพันธุ์พิไล ใบหยก ประธานบริษัท บีวายเค อินเตอร์เทรดในเครือใบหยก กล่าวว่า บริษัทได้นำเสนอรายการสินค้าอาหารประเภทซูริมิแช่แข็ง ซึ่งทางกูเมกำลังต้องการ และเป็นการเปิดช่องทางที่จะหารือธุรกิจกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในโอกาสนี้ นายบุญชัย โอภาสเอี่ยมลิขิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านพัฒนาธุรกิจของบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหารหรือซีพีเอฟ ได้พบบริษัทบาโชโค ผู้ประกอบธุรกิขฟาร์มเลี้ยงไก่และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องครบวงจรของเม็กซิโก อีกด้วย