เบนซ์ มอเตอร์ มอลล์ โหมออนไลน์ ดันยอดรถมือสองฝ่าตลาดซึม

เบนซ์ มอเตอร์ มอลล์ โหมออนไลน์ ดันยอดรถมือสองฝ่าตลาดซึม

เบนซ์ มอเตอร์ มอลล์ รุกออนไลน์ ปลุกตลาดรถมือสอง รับเทคโนโลยีเปลี่ยน ลูกค้าหาข้อมูล-ซื้อขายผ่านโซเชียลเพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้าขยายการบริการสร้างรายได้ เจาะกลุ่มลูกค้าขาดศูนย์บริการหลังผู้ประกอบการเลิกกิจการ

นางสาวฐิดา หวังดำรงเวศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบนซ์ มอเตอร์ มอลล์ จำกัด ผู้ประกอบการรถมือสอง เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการทำธุรกิจมากขึ้น และส่งผลให้พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป โดยเน้นหาข้อมูล รวมทั้งจัดการกับกระบวนการซื้อขายเพิ่มขึ้น การเริ่มต้นด้วยการดูรถที่เต็นท์ หรือลูกค้ากลุ่มวอล์คอินน้อยลง โดยในส่วนของบริษัทพบว่าที่ผ่านมา ลูกค้าที่ผ่านมาช่องทางออนไลน์ มีสัดส่วนสูงถึง 80%

ดังนั้นบริษัทจึงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ได้เริ่มนำโซเชียลมีเดียเข้ามาใช้ เพราะมีจุดเด่นคือสามารถสื่อสาร และโต้ตอบกับผู้บริโภคได้รวดเร็ว

โดยบริษัททำการตลาดผ่านทั้ง เฟซบุ๊ค แฟนเพจ และยูทูบ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะฟังก์ชั่นถ่ายทอดสดของเฟซบุ๊ค ที่ผู้บริโภคสามารถเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งการดูรายละเอียดสินค้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้แบบเรียลไทม์ เหมือนกับเป็นโชว์รูมรถออนไลน์ ซึ่งสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจในสินค้าและบริการมากกว่าการสื่อสารจากองค์กรเพียงด้านเดียว

นางสาวฐิดา กล่าวว่า การใช้ช่องใหม่ มีผลผลักดันให้ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถฝ่าตลาดรถมือสองที่ค่อนข้างซบเซาได้ โดยมียอดขายประมาณ 15 คัน/เดือน หรือ 180 คัน/ปี เติบโตจากปีก่อนหน้า 30% ขณะที่ตคลาดรวมรถมือสองปีที่แล้วขยายตัว 7% ด้วยยอดขายประมาณ 4.7 แสนคัน/ปี 

“ภาพรวมตลาดมือสองปีที่แล้วค่อนข้างซึม แต่การที่มีรถใหม่ป้ายแดงออกสู่ตลาดจำนวนมาก ก็ช่วยกระตุ้นตลาดมือสองให้เป็นบวกได้ 7%”

ทั้งนี้ตลาดรถมือสองได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ชัดเจน เริ่มตั้งแต่โครงการรถคันแรกของภาครัฐ ทำให้ผู้บริโภคหันไปใช้สิทธิลดภาษีจากการซื้อรถใหม่แทนรถมือสอง ตามด้วยปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ทำให้ความเชื่อมั่นของรถมือสองลดลงเพราะลูกค้ากลัวเป็นรถที่ถูกน้ำท่วม

ส่วนปีนี้มองว่าตลาดจะมีภาวะซบเซา เนื่องจากปัจจัยบวกที่มาช่วยในปีที่แล้วคือรถใหม่ ปีนี้ออกสู่ตลาดน้อยลง หลายค่ายส่งมอบรถล่าช้า ส่งผลกระทบต่อเนื่องยังตลาดรถมือสอง

อย่างไรก็ตาม แผนการทำตลาดของบริษัทที่จะเพิ่มความเข้มข้นของออนไลน์มากขึ้น บวกกกับการดำเนินการก่อนหน้านี้ที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่ยังไม่ได้ซื้อรถ ก็ส่งผลต่อเนื่องมายังตลาดปีนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโต 20% และมั่นใจว่าจะเป็นไปได้ เพราะช่วงครึ่งปีที่ผ่านมามีผลประกอบการที่เป็นไปตามที่วางไว้

นางสาวฐิดากล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายศูนย์บริการเพิ่มเติม 2 เท่าตัว จากปัจจุบันรองรับรถได้เดือนละประมาณ 100 คัน

การขยายศูนย์บริการ นอกจากจะรองรับการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าของบริษัท เพิ่มความพึงพอใจแล้ว ยังจะเป็นช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเติม เพราะปัจจุบันเจ้าของรถจำนวนมากไม่มีสถานที่ให้บริการ เนื่องจากเต็นท์ที่ขายรถให้ปิดกิจการ รวมไปถึงลูกค้ารถใหม่ที่ซื้อรถจากผู้นำเข้ารายย่อย หรือ เกรย์ มาร์เก็ต ที่ประสบหลายปัญหาก่อนหน้านี้ ต้องปิดกิจการไปกว่า 70% 

“รถบางยี่ห้อ โดยเฉพาะเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เราขายเป็นหลักประมาณ 90% จำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ขั้นสูง ซึ่งอู่ซ่อมรถทั่วไปไม่มี ดังนั้นเต็นท์รถ หรือ เกรย์ มาร์เก็ตที่ปิดตัวไป ก็ไม่มีที่ซ่อม เราจึงเป็นช่องทางสร้างรายได้” 

สำหรับเบนซ์ มอเตอร์ มอลล์ ดำเนินธุรกิจมากว่า 37 ปี และอยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายการบริหารมายังเจนเนอเรชั่น 2 คือนางสาวฐิดา