กังวลสงครามการค้าต่อ

กังวลสงครามการค้าต่อ

SET Index ศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลงเล็กน้อยตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ เช่น จีน และเม็กซิโก

นอกจากนี้ กลุ่มพลังงานยังถูกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง และกลุ่ม Big cap. ที่กดดันตลาด ได้แก่ AOT BDMS และ CPN ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,620.22 จุด (-1.35 จุด) Volume 5.8 หมื่นลบ. จาก Foreign +1,507.93 ลบ. TFEX Net -5,635 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +2,293 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

-ดาวโจนส์ +4.74 จุด +0.02% กังวลตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ และผลกระทบของสงครามการค้า

-สหรัฐเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตในเดือนพ.ค. ลดลงสู่ระดับ 50.5 ต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี บ่งชี้ถึงการขยายตัวไม่มาก

- ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือนพ.ค.

-ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลง - 25 เซนต์ -0.5% ปิด $53.25 ต่อบาร์เรลวิตกสงครามการค้า-ข้อมูลการผลิตสหรัฐอ่อนแอกระทบความต้องการใช้น้ำมัน

-นักวิเคราะห์เจพีมอร์แกน-มอร์แกน สแตนลีย์ประเมินว่าไม่มีแนวโน้มที่สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในเดือนนี้

-มาร์กิตเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตยูโรโซนหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ในพ.ค.ดัชนีใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีตากคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานปรับตัวลดลง

-สหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าอัตรา 5%จากเม็กซิโก

-รัฐบาลสหรัฐกำลังเริ่มการสอบสวน อเมซอน แอปเปิล เฟซบุ๊ก และ กูเกิล ผูกขาดตลาดหรือไม่ เป็นการสอบสวนวงกว้างครั้งแรกสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ของโลก

-กกร.ประเมินผลกระทบทางการเมืองอึมครึมกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน

+สศค.เตรียมคิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะต่อไปเสนอรัฐบาลใหม่พิจารณา

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -6 พันลบ. ค่าเงินบาท 31.34 บาท/US

*จับตาวันนี้สภาผู้ส่งออก แถลงสถานการณ์ส่งออก พรุ่งนี้ประชุมรัฐสภาลงมติเลือกนายกฯ

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแผ่วจากกังวลสงครามการค้าที่ขยายวงกว้างและมีแนวโน้มยืดเยื้อ ราคาน้ำมันปรับลง เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและปัจจัยการเมืองมีความไม่แน่นอน  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,611-1,632 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ดัชนี FTSE All-World หุ้นเข้า : OSP ดัชนี FTSE Small Cap หุ้นเข้า : TQM, NER, PR9 มีผล 21 มิ.ย.
  • กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก (CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, ERW, SPA)กลุ่มโรงพยาบาล (BCH)
  • หุ้นน่าลงทุน Theme EEC play : AMATA, WHA, WHART, EASTW, ATP30, ORI

หุ้นรายงานพิเศษ

SYNTEC Analyst Meeting (ราคาปิด 2.40) : มุมมองลบ

คาดครึ่งปีแรกยังไม่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน  จาก 1Q62 มีกำไรสุทธิ 58 ล้านบาท –58%yoy และแนวโน้ม 2Q62 ยังแผ่วจาก Q1 เนื่องจาก 1) ไม่มีรายการพิเศษรวม 26 ล้านบาทที่เป็นการกลับประมาณการหนี้สินและกำไรจากการตัดจำหน่ายทรัพย์สิน 2) เดือนเม.ย.มีช่วงวันหยุดยาวทำให้ทำงานก่อสร้างได้น้อยจึงคาดรายได้มีแนวโน้วหดตัวจากไตรมาสแรก 3) แม้อัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจก่อสร้างมีแนวโน้มดีขึ้นจาก 1Q62 ที่ระดับ 8.7% แต่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับ 19.5% ใน 1Q61 เนื่องจากเป็นงานเก่าที่ก่อสร้างต่อเนื่องใน Q1 เป็นงานลักษณะ mixed use ที่มีมาร์จิ้นต่ำ  มีการบันทึก employee benefit ใน 2Q62  4) รายได้ธุรกิจบริการห้องพักยังแผ่วจากธุรกิจอยู่ในช่วงเริ่มต้นมีอัตราการเข้าพักโดยรวมอยู่ในระดับต่ำ โดยมีสัดส่วนรายได้ 7% ของรายได้รวมในช่วง 1Q62 ปลายงวด 1Q62 มี backlog 1.07 หมื่นล้านบาท

ความเห็น คาดความสามารถในการทำกำไรยังอยู่ในระดับต่ำกดดัน Consensus มีแนวโน้มปรับลดประมาณการกำไรปี 62 ปัจจุบันที่ระดับ 591 ล้านบาท -5%YoY  การเติบโตของรายได้ไม่มาก ผู้บริหารตั้งเป้า +5%  โอกาสในรับงานใหม่ถูกกระทบจากมาตรการ LTV ทำให้ผู้ประกอบการลดการพัฒนาโครงการคอนโดฯ หรืองานล่าช้าจากการแก้ไขแบบ มีโอกาสได้งานเพิ่มในการขยายไปรับงานเสาเข็มเจาะที่มีงานล้นมือ แต่คาดไม่มีนัยสำคัญต่อการเติบโตของผลประกอบการ  ฝ่ายวิจัยมีมุมมองลบต่อการเติบโตของผลการดำเนินงาน

ส่องหุ้น

      TPCH       แนวรับ 9.75 บาท        แนวต้าน 9.90 , 10.10 บาท

      CBG        แนวรับ 66.00 บาท       แนวต้าน 70.25 บาท

      GFPT       แนวรับ 15.80 บาท       แนวต้าน 16.00 , 16.30 บาท

หุ้นมีข่าว   

·         NER (ราคาปิด 2.26 บาท “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 3.10 บาท )  เผยไตรมาส 2/2562 ยอดขายเติบโตต่อเนื่องตามเป้าที่ 22,000 ตัน ระบุมีปัจจัยบวกด้านราคายางที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสแรก หนุนรายได้-กำไร เฉลี่ยทั้งปีเติบโตมากกว่าปีก่อน ด้านสงครามการค้าไม่กระทบเล็กน้อย จากสัดส่วนการส่งออกที่ต่ำกว่าการขายในประเทศและลูกค้าจีนมีการย้ายฐานการผลิต มั่นใจรายได้ปีนี้มาตามนัด 20-30% (ที่มา หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อการเติบโตในช่วง 2Q62 คาดจะเติบโตสูงทั้ง YoY และ QoQ ทั้งเป้าปริมาณขายที่ 22,000 ตัน/เดือน ประกอบกับผลบวกจากสายการผลิตใหม่ (ยาง RSS-Mixture) ให้บริการเต็มไตรมาส หนุนกำลังผลิตเพิ่มขึ้น 60,000 ตัน/ปี ส่งผลให้กำลังผลิตรวมปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 292,800 ตัน/ปี นอกจากนี้ ราคาต้นทุนยางที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ขณะที่ราคาขายยังคงปรับตัวสูงขึ้นจากการทำสัญญาขายเมื่อ 4 เดือนก่อน จะเป็นอีกแรงช่วยหนุน %GPM ให้อยู่ในระดับสูงที่ 9-12% จาก 1Q62 อยู่ที่ระดับ 8.2% ทั้งนี้ ผลประกอบการปี 62 จะเติบโตตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับกำลังการผลิตใหม่ช่วยหนุน โดยเราคาดกำไรปี 62 ราว 531 ลบ. +9%YoY

·         SSP (ราคาปิด 7.75 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 11.60 ) ฉายภาพไตรมาส 2/2562 ทิศทางเติบโตดี หลังจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในโครงการโซลาร์ ฟาร์ม Binh Nguyen ที่ประเทศเวียดนาม จำนวน 49.61 เมกะวัตต์ มั่นใจสิ้นปี 2562 กำลังการผลิตติดตั้งแตะ 157 เมกะวัตต์ พร้อมหนุนรายได้รวมปีนี้เติบโต 30-40% พร้อมเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง (ที่มา หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)

ความเห็น : เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการ CODโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนามโดยคาดว่า ณ สิ้นปี 62 บริษัทจะทำมีกำลังการผลิตติดตั้ง ทั้งสิ้นไปถึง 157 MW (จากสิ้นปี 61 ที่ 90.4 MW) แต่เนื่องจากบริษัทมีโครงการในประเทศมองโกเลียที่ COD ล่าช้ากว่ากำหนด เราจึงอยู่ระหว่างการปรับประมาณการเชิงลบต่อผลการดำเนินงานปี 62

·         BAFS (ราคาปิด 34.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 40.00)ปรับเป้าโตล้อเที่ยวบินหด บริการน้ำมันทางท่อหนุนรายได้ คาดรายได้ไตรมาส 2/2562 ยังโตต่อ แม้ท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอตัวจากรายได้การให้บริการน้ำมันทางท่อเข้ามาเสริม มั่นใจยอดขายน้ำมันปีนี้โต 5% ตามเป้า ส่วนรายได้ปีนี้ปรับลดเหลือ 8-9% เหตุท่องเที่ยวชะลอตัวย้ำพร้อมประมูลโครงการบริการจัดเก็บและเติมน้ำมัน ในสนามบินอู่ตะเภาคาดเฟส 1 คาดใช้เงิน 30 ล้านบาท (ที่มา หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)

·         SENA ซุ่มดีลแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เสริมพอร์ตรายได้ประจำคาดชัดเจนช่วง Q3/2562 แถมเดินหน้าเปิด 15 โครงการใหม่ ปั๊ม Backlog เพิ่มจากเดิมราว 1.17 หมื่นล้านบาท กินยาวปี 2564 ส่วนปี 2562 วางเป้ารายได้ 8.27 พันล้านบาท ผู้บริหารวางหมากปี 2564 ยอดโอนพุ่ง 1.8 หมื่นล้านบาท (ที่มา หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)

·         BTS (ราคาปิด 11.40 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 12.32) ธุรกิจขยายตัวดีผลงานทะยาน 240% แจกปันผล 0.25 บาท พร้อมอวดผลงานปี 61/62 รายได้รวมจากการดำเนินงานทะลุ 47,923 ล้านบาท เติบโตกว่า 240% โชว์กำไรสุทธิแตะ 3,248 ล้านบาท ฟากบอร์ดไฟเขียวปันผล 0.25 บาท (ที่มา หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)

·         MOONG กางแผนงานครึ่งหลังปี 2562 เตรียมคลอดโปรดักต์ใหม่กระตุ้นยอดขาย พร้อมติดปีกขยายฐานลาว-กัมพูชา แย้มอยู่ระหว่างหาพันธมิตรร่วมทุน M&A เสริมแกร่งธุรกิจ ปักเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% (ที่มา หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)

·         ประเด็นบวกกลุ่ม ICT : 3 ค่ายมือถือเฮ! รับข่าวดี หลังศาลปกครองกลางยกฟ้องคดี TOT เรียกร้องค่าเชื่อมโยงโครงข่ายพร้อมดอกเบี้ย จาก DTAC จำนวน 245,638 ล้านบาท TRUE จำนวน 59,628 ล้านบาท และ ADVANC จำนวน 5,454 ล้านบาท เหตุเห็นว่าอัตราค่าเชื่อมโยงโครงข่ายขัดต่อประกาศกสทช. (ที่มา ข่าวหุ้น)

  • JKN (ราคาปิด 7.80 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 00)ผนึกช่อง "GMM 25" ปั้นคอนเทนต์ข่าวภายใต้ลิขสิทธิ์ CNBC (Asia) ภาคภาษาไทย กรุยทางโกยเงินเพิ่ม ดีเดย์เริ่มออกอากาศ 1 กรกฎาคมนี้ ด้านบิ๊ก GMM จ่อดัน 2 ช่องดิจิทัลเข้าตลาดหุ้นปี 2563 ส่งสัญญาณแนวโน้มผลงานฟื้นตัว (ที่มา หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)
  • RATCH (ราคาปิด 61.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 55) เผยโรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น ขนาด 100 MW ในจ.ราชบุรี เริ่ม COD แล้ว (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
  • TOP (ราคาปิด 59.25 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 79.01)  เผยบ.ย่อยจะใช้เงิน 47.7 ลบ.เข้าซื้อหุ้น 67% ในบ.จำหน่ายเคมีภัณฑ์-สารทำละลายในอินโดนีเซีย