เก็งกำไรหุ้นในกลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำนาน หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง

เก็งกำไรหุ้นในกลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำนาน หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง

ผลตอบแทนพันธบัตร ส่งสัญญาณตลาดกลัวเศรษฐกิจถดถอย

ความกังวลสงครามการค้ากระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ลดลง อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น (3 เดือน) สูงกว่าระยะยาว (10 ปี) ซึ่งในทางการเงินสถานการณ์นี้เรียกว่า Inverted Yield Curve (IYC) มักเป็นตัวบ่งชี้ถึงสัญญาณของการเกิดเศรษฐกิจถดถอย โดยความกังวลผลกระทบสงครามการค้าเพิ่มขึ้น หลังประเด็นของจีนอาจจำกัดการส่งออกแร่หายาก ส่งผลให้ดัชนีดาวโจน์หลุดแนวรับสำคัญที่ 25200 จุด มีส่วนกดดันต่อจิตวิทยาของสินทรัพย์เสี่ยง โดยแนวอยู่ที่โซน 23,700-24,300 จุด

การเมืองที่ไร้ข้อสรุป เป็นปีกปัจจัยกดดัน ความแตกแยกภายในพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ยังไม่ได้ข้อสรุปในการเข้าร่วมรัฐบาล ทำให้ตลาดกังวลการจัดตั้งรัฐบาลอาจยืดเยื้อ นอกจากนี้ตลาดมองถึงความเป็นไปได้ในเชิงลบ ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเสียงสนับสนุนมากพอที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่อาจตัดสินใจยุบสภาหากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ อย่างไรก็ตามตลาดยังมีแรงเก็งกำไรเชิงบวกในหุ้นการเมือง อาทิ STEC, STPI, PTG, CK เป็นต้น

หลังการปรับหุ้นของ MSCI ตลาดเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ ปริมาณการซื้อขายเริ่มกลับสู่ระดับปกติที่ 5 หมื่นล้านบาท/วัน เรายังคงมุมมองระวังแรงขายทำกำไรหุ้นที่เข้าดัชนี MSCI โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นใหญ่ที่เข้าดัชนี Global Index อย่าง INTUCH, RATCH, DTAC ขณะที่หุ้นในกลุ่ม Small Caps ยังสามารถพิจารณาเก็งกำไรเป็นรายตัว โดยเฉพาะที่อยู่ในอุตสาหกรรมปลอดภัย หรือได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำนาน อาทิ AEONTS, EASTW, PSH

เลือกเก็งกำไรรายตัว หุ้นปลอดภัย ทยอยสะสมโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยยังคงความระมัดระวังในการเก็งกำไรเชิงตั้งรับ และรอจังหวะทยอยสะสม GPSC, CPF, TU, GFPT, SAWAD, AEONTS, TK, GCAP, AMANAH, PSH, AP, SPALI หรือกลุ่มที่ผลการดำเนินงานมั่นคง อาทิ WHART, FTREIT, EGATIF, EASTW, GUNKUL*, SSP*, AQUA* / ปิโตรเคมี โรงกลั่น ลงมาจนต่ำกว่าหรือใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี อาทิ TOP (61.82), PTTGC (66.94), IRPC (4.29), BCP (31.15) โดยเฉพาะ TOP และ PTTGC

ภาพรวมกลยุทธ์: การหลุด 1620 ทำให้ไม่ปิดความเสี่ยงต่อการลงทดสอบที่ 1607 และ ในโซนต่ำ 1600 จุด  การเก็งกำไรยังเน้นกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำวันนี้ GPSC, AEONTS เก็งกำไร SQ* (เป้า 2.66 ตัดขาดทุน 2.40), เก็งกำไร AMANAH* (เป้า 1.80 ตัดขาดทุน 1.56)

แนวรับ 1617 / แนวต้าน : 1637 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

ตลาดประเมินเฟดปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง – ตลาดประเมินเฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ภายในเดือน ม.ค.63 (นักลงทุนคาดการณ์ 63% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. และ 62% ในเดือน ม.ค.63)

ธปท.ไม่รับพิจารณาทบทวนปรับหลักเกณฑ์ LTV –ระบุเหตุการชะลอตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในเดือน เม.ย.-พ.ค. เกิดจากการเร่งตัวของยอดขอสินเชื่อและการโอนกรรมสิทธ์จำนวนมากในช่วงไตรมาส 4/61 ถึง ไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมา

ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยดีขึ้นมากสุดในรอบ 10 ปี – สภาพัฒน์ เผยผลการจัดอันดับขีดความสามารถของไทยโดย IMD ปรับดีขึ้น 5 อันดับ สู่ลำดับที่ 25 ของโลก สูงสุดในรอบ 10 ปี

ซีพีรุกตลาดรถยนต์ครบวงจร - เตรียมเปิดลีสซิ่งเพื่อสนับสนุนยอดขาย MG ทั้งในเซคเมนต์ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล, รถเอนกประสงค์และกระบะ

ประเด็นติดตาม: 30 พ.ค. – สหรัฐฯ รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1/62, 31 พ.ค. – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย, 3 มิ.ย. – ไทย รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ / China manufacturing PMI

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)