จีนเตรียมลดส่งออกแร่หายากไปสหรัฐ

จีนเตรียมลดส่งออกแร่หายากไปสหรัฐ

สื่อทางการจีนเปิดประเด็นขู่ลดส่งออกแร่หายากไปสหรัฐ เป็นมาตรการตอบโต้สงครามการค้า ตัดกำลังวอชิงตันได้วัตถุดิบสำคัญพัฒนาเทคโนโลยี

สื่อจีนกระหน่ำเปิดประเด็นแร่หายาก (แรร์เอิร์ธ) ที่จะใช้เป็นเครื่องมือตอบโต้สหรัฐ ในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างสองประเทศกำลังระอุ โดยรายงานว่าเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยนามรายหนึ่งจากคณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ ซึี่งเป็นหน่วยงานวางแผนของจีน กล่าวเตือนเมื่อกลางดึกวันอังคาร (28 พ.ค.) ว่า

หากใครอยากใช้สินค้าผลิตจากการส่งออกแร่หายากของจีน เพื่อมาควบคุมและจำกัดการพัฒนาของจีนเอง ชาวกานโจวและชาวจีนทั่วประเทศไม่มีวันเห็นด้วย แร่หายากจะต้องตอบสนองความต้องการในประเทศเสียก่อน แต่จีนก็ยินดีตอบสนองความต้องการอันชอบธรรมจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ด้านบทวิจารณ์จากสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน ระบุว่า ยิ่งสหรัฐโหมทำสงครามการค้ากับจีน ก็ยิ่งสูญเสียซัพพลายสำคัญที่จะหล่อเลี้ยงเทคโนโลยีสหรัฐให้แข็งแกร่งต่อไปได้

สอดคล้องกับบทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สฉบับออนไลน์ ระบุ "สหรัฐต้องเสียใจที่บีบให้จีนต้องใช้แร่หายากเป็นเครื่องมือเชื่อว่าหากสหรัฐกดดันการพัฒนาของจีนมากๆ เข้า ไม่ช้าก็เร็วจีนจะใช้แร่หายากเป็นอาวุธแน่นอน”

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นบริษัทแรร์เอิร์ธ ทั้งในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น พุ่งขึ้นในการซื้อขายวานนี้

จริงๆ แล้วรัฐบาลปักกิ่งทิ้งระเบิดเรื่องแรร์เอิร์ธตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ด้วยการเผยแพร่ภาพประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไปเยี่ยมโรงงานผลิตแร่หายากในเมืองกานโจวทางภาคกลางของประเทศ

แรร์เอิร์ธคือธาตุสำคัญ 17 ชนิด ใช้ผลิตสินค้าทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟนและโทรทัศน์ ไปจนถึงกล้องถ่ายรูปและหลอดไฟฟ้า

จีน ผลิตแรร์เอิร์ธได้กว่า 95% ของโลก และสหรัฐต้องพึ่งพาจีนนำเข้าสินค้าจากแดนมังกรถึง 80% ดังนั้นในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงความเป็นเจ้าด้านเทคโนโลยีจีนก็อาจทำร้ายบริษัทสหรัฐได้ด้วยแรร์เอิร์ธ

วันเดียวกันนี้ หัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนที่ถูกสหรัฐบีบหนักก็รุกต่อสู้ทางคดี ยื่นคำร้องให้ศาลสหรัฐมีคำพิพากษารวบรัด ตามที่หัวเว่ยเคยดำเนินการเมื่อเดือน มี.ค.ขอให้ศาลยกเลิกกฎหมายสกัดหน่วยงานรัฐบาลกลางไม่ให้ใช้สินค้าจากบริษัทเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย หัวเว่ยอ้างว่ากฎหมายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ

นายซ่ง หลิงปิง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายหัวเว่ยกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐกล่าวหาว่าหัวเว่ยเป็นภัยคุกคามความมั่นคงโดยไม่มีหลักฐานมายืนยัน อุปกรณ์ของหัวเว่ยไม่ใช่เครื่องมือที่รัฐบาลจีนใช้สอดแนมประเทศใด

นอกจากนี้การที่กระทรวงพาณิชย์ขึ้นบัญชีหัวเว่ย ถือเป็นแบบอย่างที่น่ากลัว เพราะวันนี้เป็นเรื่องของหัวเว่ยกับภาคโทรคมนาคมของสหรัฐ แต่ในอนาคตสหรัฐอาจเล่นงานบริษัทใดก็ได้ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค