กกต.เผยกำลังสอบสวน 'ธนาธร' ปมให้อนค.กู้ 110 ล้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรม วินทรี ซิตี้ รีสอร์ท อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรบเชิงปฎิบัติการแนวทางการดำเนินงานแก่สาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด รุ่นที่สอง ภาคเหนือ โดยมี พ.ต.ท.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. และนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. มาร่วมงานด้วย

โดยหลังจากพิธีเปิดเสร็จสิ้น นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ได้ปฎิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยอ้างว่าติดภารกิจรีบไปตรวจราชการ และได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. และนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. ให้สัมภาษณ์แทน

พ.ต.ท.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวว่า ขณะนี้มีข้อร้องเรียนจากการเลือกตั้งทั้งหมด 300-400 เรื่อง ได้พิจารณาไปพอสมควรแล้ว มีหลายเรื่องที่ยังสอบสวนไม่เสร็จ ในส่วนนี้ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าจะหยิบแต่ละเรื่องมาแจกใบเหลือองใบแดงได้เลย ส่วนกรณีของพรรคอนาคตใหม่ เรื่องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคต ให้พรรคยืมเงิน 110 ล้านบาทนั้นมีผู้ร้องเรียนมาแล้ว ตอนนี้อยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

ส่วนข้อสงสัยการคิดคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เหตุใดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 คะแนนของพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ได้ลดลง แต่กลับได้ส.ส.เพิ่มขึ้นพรรคละ 1 คนนั้น นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. กล่าวว่า ในส่วนนี้ได้มีการชี้แจงไปแล้ว การเลือกตั้งถ้ามีตำแหน่งว่าง หรือมีการเลือกตั้งใหม่ เราจะคำนวณใหม่ทุกครั้ง ไม่ได้คำนวณเฉพาะเขตที่เลือกตั้งใหม่
โดยจะเอาคะแนนของเขตที่เลือกตั้งใหม่ ไปรวมกับคะแนนทั้งหมดของ 74 พรรคการเมือง และคำนวณสัดส่วนให้เหมือนกับเริ่มต้นใหม่ ถือว่าเป็นไปตามกฎหมายมาตราที่ 127 (1)-(7) กรณีที่มีการโอเวอร์แฮงค์ เหมือนพรรคเพื่อไทยมีส.ส.แบบแบ่งเขตเกินจำนวนส.ส.ที่พึงมีได้ ก็จะข้ามไม่ใช้(4) แต่ไปใช้(5)-(7) ก็จะคำนวณออกมา ใครมีเศษได้มากที่สุด จนจำนวนส.ส.ครบ 150 คน นี่คือวิธีการเราไม่ได้คำนวณเฉพาะเขต 8 เชียงใหม่ เขตเดียว เมื่อเลือกตั้งเสร็จ ก็ต้องไปรวมกับคะแนนดิบของ 74 พรรคการเมืองอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นไปตามกฎหมาย