ไทยขีดแข่งขันดีขึ้นรั้งที่25ปีนี้จากอันดับ30ปี61

ไทยขีดแข่งขันดีขึ้นรั้งที่25ปีนี้จากอันดับ30ปี61

ขณะสิงคโปร์โค่นสหรัฐนั่งแท่นประเทศที่มีขีดความสามารถด้านการแข่งขันสูงสุดในโลก

สิงคโปร์ ครองอันดับ 1 ประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงสุดในโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2553 จากรายงานการจัดอันดับขีดแข่งขันโลกของไอเอ็มดี โดยโค่นแชมป์เก่าอย่างสหรัฐได้ ขณะที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจกำลังส่งผลกระทบต่อประเทศในยุโรป

ทั้งนี้ สิงคโปร์ ผงาดครองแชมป์โดยได้รับแรงหนุนจากโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แรงงานที่มีทักษะสูง กฎหมายคนเข้าเมืองที่เอื้ออำนวย และวิธีการตั้งธุรกิจใหม่ที่มีประสิทธิภาพ ส่วนฮ่องกงตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยนโยบายทางธุรกิจและภาษีที่เอื้ออำนวย และการเข้าถึงเงินทุนในการทำธุรกิจ

ด้านสหรัฐหล่นลงมาอยู่อันดับ 3 โดยรายงานระบุว่า ความเชื่อมั่นที่เกิดจากนโยบายภาษีระลอกแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลดน้อยถอยลงไป แม้ว่าสหรัฐยังคงเป็นผู้นำของโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานและสมรรถนะทางเศรษฐกิจ แต่ความสามารถในการแข่งขันของประเทศก็ได้รับผลกระทบจากราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น การส่งออกสินค้าไฮเทคที่ลดลง และค่าเงินดอลลาร์ที่ผันผวน

ศาสตราจารย์ อาร์ทูโร บริส ผู้อำนวยการศูนย์การแข่งขันไอเอ็มดี ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยที่ทำการจัดอันดับ กล่าวว่า “สำหรับปีที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนในตลาดโลก อันเป็นผลมาจากสถานการณ์ทางการเมืองและความสัมพันธ์ทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ ดูเหมือนว่าคุณภาพของภาคสถาบันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศ กรอบการทำงานที่แข็งแกร่งของภาคสถาบันสร้างความมั่นใจให้ภาคธุรกิจลงทุนและพัฒนานวัตกรรม รวมถึงสร้างหลักประกันว่าประชาชนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

บรรดานักเศรษฐศาสตร์มองว่าความสามารถในการแข่งขันมีความสำคัญต่อสุขภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาวของแต่ละประเทศ เนื่องจากช่วยให้ภาคธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ช่วยสร้างงาน และยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

โรงเรียนธุรกิจไอเอ็มดีจัดทำรายงานการแข่งขันโลก เป็นครั้งแรกในปี 2532 โดยใช้ตัวบ่งชี้ 235 ประการ ในการจัดอันดับ 63 ประเทศ ประกอบด้วยข้อมูลอย่างหยาบ เช่น อัตราว่างงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และการใช้จ่ายของรัฐบาลในด้านสาธารณสุขและการศึกษา รวมถึงข้อมูลอย่างละเอียดจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารในประเด็นต่างๆ เช่น ความสมานฉันท์ในสังคม โลกาภิวัตน์ และการคอร์รัปชัน

สวิตเซอร์แลนด์ไต่ขึ้นมาสู่อันดับ 4 จากเดิมที่อันดับ 5 โดยได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโต เงินฟรังก์สวิสที่มีเสถียรภาพ และโครงสร้างพื้นฐานคุณภาพสูง ส่วนซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีอันดับดีขึ้นมากที่สุดในปีนี้ โดยกระโดดขึ้นมา 13 ขั้น จนรั้งอันดับ 26

สรุป 10 ประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงสุดในโลกในปีนี้ ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ขึ้นมาจากอันดับ 15 ในปี 2559) เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน และกาตาร์

เวเนซุเอลายังคงรั้งท้ายตาราง โดยได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ การเข้าไม่ถึงสินเชื่อ และเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

ส่วนไทย อันดับขีดแข่งขันดีขึ้นในปีนี้ติดอันดับที่ 25 จากอันดับ 30 ของปีก่อนหน้านี้