สงครามการค้าหนุนสหรัฐนำเข้าเวียดนามเพิ่ม40%

สงครามการค้าหนุนสหรัฐนำเข้าเวียดนามเพิ่ม40%

สหรัฐ นำเข้าสินค้าจากเวียดนามเพิ่ม40%ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หลังประกาศสงครามการค้ากับจีน และจีนตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีในอัตราเท่าเทียมกัน ส่อเค้าเวียดนามเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของสหรัฐแซงหน้าสหราชอาณาจักร อิตาลี และฝรั่งเศส

เว็บไซต์ข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้สหรัฐ ได้สั่งนำเข้าสินค้าจากเวียดนามเพิ่ม40% หลังประกาศสงครามการค้ากับจีน และจีนตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีในอัตราเท่าเทียมกัน หากสหรัฐยังคงสั่งสินค้านำเข้าจากเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เวียดนามจะก้าวขึ้นมาเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของสหรัฐแซงหน้าสหราชอาณาจักร อิตาลี และฝรั่งเศส

ทั้งนี้ สำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐ ระบุว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ สหรัฐนำเข้าสินค้าจากเวียดนามเพิ่มขึ้น 40.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ส่วนคำสั่งซื้อสินค้าจากเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 18.4% แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน สหรัฐ สั่งนำเข้าสินค้าจากจีนลดลง 13.9% ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงร้อนระอุ

หากการส่งออกสินค้าเข้าไปสหรัฐของเวียดนามยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่การส่งออกของเวียดนามไปสหรัฐจะขยายตัวต่อเนื่อง เวียดนามจะแซงหน้าอิตาลี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร หรือแม้แต่อินเดีย ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของสหรัฐ

ส่วนอินเดีย อาจจะขยับขึ้นไปสองอันดับในฐานะผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ไปสหรัฐ เช่นเดียวกับฝรั่งเศสที่ขยับขึ้น1อันดับหากยังคงรักษาอัตราการเติบโตของการส่งออกไปสหรัฐไว้ได้ในระดับที่น่าพอใจตลอดช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะสวนทางกัลไอร์แลนด์ที่ร่วงลงมา4อันดับเพราะการส่งออกไปสหรัฐลดลง เช่นเดียวกับสหราชอาณาจักรและอิตาลีที่ร่วงลงมาประเทศละ2 อันดับ

เวียดนาม เป็นประเทศที่ได้อานิสงส์จากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยการส่งออกในเดือนเม.ย.ของหลายประเทศในเอเชียปรับตัวร่วงลงเพราะผลกระทบจากสงครามการค้า ทั้งการส่งออกของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และไต้หวัน แต่การส่งออกของเวียดนามกลับขยายตัว 7.5%