'13 แกนนำ นปช.' สู้อีกคดีไล่รัฐบาล 'อภิสิทธิ์' จัดพยานไว้สืบ 50 ปาก

เมื่อวันที่ 27 พ.ค.62 ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานคดีชุมนุม นปช. ขับไล่รัฐบาล ปี 2552 หมายเลขดำ อ.968/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 71 ปี อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยที่ 1 ,นายจตุพร พรหมพันธุ์ อายุ 54 ปี ประธาน นปช. จำเลยที่ 2 , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 44 ปี เลขาธิการ นปช.จำเลยที่ 3 และแกนนำ นปช. รวม 13 คน เป็นจำเลยที่ 1-13 ในความผิดรวม 3 ข้อหา ฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่อง ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 , มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ ตามมาตรา 215 และทำการฝ่าฝืน พ.ร.ก. บริหารราชการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 31 ม.ค. - 14 เม.ย.52 กลุ่ม นปช. จัดการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ, ยึดและเผารถโดยสารประจำทางในพื้นที่ กทม. และนำรถบรรทุกแก๊สไปจอดไว้กลางถนนเพื่อข่มขู่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

โดยจำเลยทั้ง 13 คน ให้การปฏิเสธ และชั้นพิจารณาก็ได้รับประกันตัวไปคนละ 200,000 บาท ซึ่งวันนี้ นายวีระกานต์ , นายจตุพร , นายณัฐวุฒิ แกนนำ นปช. มาศาลโดยสวมใส่ชุดสีดำเผื่อร่วมอาลัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีถึงแก่อสัญกรรม แต่เมื่อถึงเวลานัด ปรากฏว่า ทนายความ แถลงว่า นายณรงศักดิ์ มณี อายุ 53 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ จำเลยที่ 6 ป่วยโรคไต ขณะนี้เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลใน จ.สุพรรณบุรี ไม่สามารถมาศาลได้ ศาล พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุจำเป็น ดังนั้นวันนี้อนุญาตให้จำเลยที่ 6 ไม่ต้องเดินทางมาศาล

นอกจากนี้ ทนายความ ยังแถลงด้วยว่า นายพีระ พริ้งกลาง จำเลยที่ 12 เสียชีวิตแล้ว โดยบุตรสาวนำใบมรณบัตร มายื่นแสดงต่อศาลด้วย ขณะที่อัยการโจทก์ ขอเวลาไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตดังกล่าวก่อนและจะแถลงรายละเอียดต่อศาลในนัดหน้า
จากนั้น ศาล จึงให้ 2 ฝ่าย นำเสนอบัญชีพยานแต่ละฝ่าย โดย อัยการ โจทก์ แถลงจะนำพยานเข้าสืบ 141 ปากใช้เวลา 50 นัด ส่วนจำเลยทั้ง 13 คน แถลงนำพยานเข้าสืบต่อสู้คดี จำนวน 50 ปากใช้เวลา 20 นัด

ศาล พิจารณาแล้ว อนุญาตตามบัญชีระบุพยาน โดยนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่ 23 เม.ย.2563 เวลา 09.00 น. และในเดือน เมย. , พ.ค. , มิ.ย. ส่วนจำเลย เริ่มสืบพยานในวันที่ 12 , 13 , 17 , 18 , 19 , 26 , 27 พ.ย.2563

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้อัยการได้แยกข้อหาฟ้องจำเลยแต่ละคนต่างกัน โดย นายวีระกานต์ อายุ 71 ปี อดีตประธาน นปช. จำเลยที่ 1 , นายจตุพร อายุ 54 ปี ประธาน นปช. จำเลยที่ 2 และนายณัฐวุฒิ อายุ 44 ปี เลขาธิการ นปช. จำเลยที่ 3 ในความผิดฐานร่วมกันชุมนุม ณ ที่ใดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 68 ปี แกนนำ นปช.จำเลยที่ 4, นายสิระหรือสรวิชญ์ พิมพ์กลาง อายุ 60 ปี แกนนำคนเสื้อแดง จ.สกลนคร จำเลยที่ 5 , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อายุ 68 ปี แกนนำ นปช. จำเลยที่ 7, นายพิพัฒน์ชัย หรือสมชาย ไพบูลย์ อายุ 50 ปี แนวร่วม นปช. จำเลยที่ 8 และนายพายัพ ปั้นเกตุ อายุ 60 ปี แนวร่วม นปช. จำเลยที่ 9 ถูกยื่นฟ้อง 3 ข้อหา ในความผิดฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่อง ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 , มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ มาตรา 215 และทำการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

นายณรงศักดิ์ มณี อายุ 53 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ จำเลยที่ 6 ถูกยื่นฟ้องข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 นายพงศ์พิเชษฐ์ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง อายุ 61 ปี แนวร่วม นปช. จำเลยที่ 10 ถูกยื่นฟ้อง 2 ข้อหา ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ มาตรา 215 นายอดิศร เพียงเกษ จำเลยที่ 11 ถูกฟ้องในความผิดฐาน ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป นายพีระ พริ้งกลาง จำเลยที่ 12 ถูกฟ้อง 2 ข้อหา ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ มาตรา 215 นายเมธี อมรวุฒิกุล จำเลยที่ 13 ถูกฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215