'ศิริ' ส่งไม้ต่อรัฐบาลชุดใหม่ เคลียร์ปัญหาทางเทคนิคนำเข้าแอลเอ็นจี

'ศิริ' ส่งไม้ต่อรัฐบาลชุดใหม่ เคลียร์ปัญหาทางเทคนิคนำเข้าแอลเอ็นจี

"ศิริ" ส่งไม้ต่อรัฐบาลชุดใหม่ เคลียร์ปัญหาทางเทคนิคนำเข้าแอลเอ็นจี ปริมาณไม่เกิน 1.5 ล้านตันของ กฟผ. ยันเงินกองทุนน้ำมันฯ ตรึงแอลพีจีครัวเรือนได้อีก 2-3 เดือน 

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)วันนี้(27พ.ค.)ว่า กบง. ได้รับทราบรายงานแนวทางแก้ไขปัญหาเบื้องต้นของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กับบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หลังจากการประชุม กบง.เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 ได้สั่งการให้ทั้ง 2 หน่วยงานดังกล่าวไปหารือร่วมกัน เพื่อวางแนวทางรองรับการจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ปริมาณไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปี ของ กฟผ.ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าขงประเทศในอนาคต


โดย กบง.ได้มอบหมายให้ทั้ง 2 หน่วยงานไปทำความเข้าใจร่วมกับในรายละเอียดเพิ่มเติมใน 2 ประเด็นสำคัญ ให้ชัดเจนในทางปฏิบัติกรณีหากเกิดปัญหา คือ 1.การนำเข้าก๊าซมาแล้วไม่ได้ใช้ก็ต้องชำระเงิน (Take or Pay) ตามข้อผูกพันซื้อขายก๊าซ และ 2.หากระทบต่อปริมาณก๊าซที่ผู้ขายจะต้องส่งมอบตามสัญญาให้แก่ผู้ซื้อรายวัน Daily Contract Quantity (DCQ)
นอกจากนี้ กบง.ยังรับทราบการรายงานสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด วันที่ 26 พ.ค.2562 กองทุนฯมีเงินสะสม 40,811 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน อยู่ที่ 34,229 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจี ติดลบอยู่ที่ 6,582 ล้านบาท
“กระทรวงพลังงาน ได้เตรียมพร้อมมาตรการต่างๆ เพื่อดูแลสถานการณ์พลังงานของประเทศอย่างดีแล้ว และพร้อมส่งต่อให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารจัดการต่อไป” นายศิริ กล่าว


โดยในส่วนสถานการณ์ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี)นั้น กบง.ประเมินว่า กรอบวงเงิน 7,000 ล้านบาท ที่เคยจัดสรรไว้สำหรับดูแลราคาแอลพีจีภาคครัวเรือน ถังขนาด 15 กิโลกรัม ไว้ที่ระดับ 363 บาท ยังเพียงพอที่จะดูแลราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนในระยะสั้นได้อีก 2-3 เดือน หลังจากราคาแอลพีจีตลาดโลก(ซีพี) ล่าสุด อ่อนตัวลงอยู่ที่ประมาณ 410 ดอลลาร์ต่อตัน แต่ทั้งนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาในระยะต่อไปด้วย