เจพีมอร์แกนหั่นคาดการณ์จีดีพีสหรัฐโต่แค่1%

เจพีมอร์แกนหั่นคาดการณ์จีดีพีสหรัฐโต่แค่1%

เจพีมอร์แกน คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวแค่ 1% ในไตรมาส 2 ลดลงจากระดับ 2.25% ที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากมีการขยายตัว 3.2% ในไตรมาสแรก

“ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐย่ำแย่ในเดือนเม.ย. โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับคำสั่งซื้อสินค้าทุน หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซาในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 2 จะดิ่งลงอย่างมากจากไตรมาสแรก” รายงานระบุ

ขณะเดียวกัน เจพีมอร์แกน คาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจดำเนินการด้านนโยบายครั้งต่อไป ด้วยการปรับขึ้น หรือปรับลดอัตราดอกเบี้ย จากเดิมที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น

นอกจากนี้ เจพีมอร์แกน ยังระบุว่า ความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐรวมถึงความไม่แน่นอนของการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจ และทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ร่วงลง 2.1% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งการดิ่งลงของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนเม.ย. ได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน และรถยนต์

ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ลดลง 0.9% ในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.และเมื่อเทียบรายปี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานดีดตัวขึ้น 2.6% ในเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ยังเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.2% ในเดือนเม.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งการปรับตัวลงของยอดค้าปลีกในเดือนเม.ย.ได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของยอดขายรถยนต์