AUCT - ซื้อ

AUCT - ซื้อ

แนวโน้ม 2Q62 เติบโต YoY แต่อ่อนตัว QoQ

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • รายงานกำไร 1Q62 เท่ากับ 59.6 ลบ. +43.4%YoY +17%QoQ: 1Q62 มีรายได้หลักเท่ากับ 198 ลบ. +23%YoY -7%QoQ รายได้เติบโตทุกกลุ่มการประมูล ขณะที่ %GPM ทำได้ดีขึ้นมาที่ระดับ 54.6% จาก 1Q61 และ 4Q61 อยู่ที่ระดับ 53% และ 52% ตามลำดับ ส่วน %SG&A ทำได้ดีขึ้นโดยปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 17.4% จาก 1Q61 และ 4Q61 อยู่ที่ระดับ 21% จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ส่งผลให้ %NPM เพิ่มขึ้นเป็น 30% จาก 1Q61 และ 4Q61 อยู่ที่ระดับ 25.6% และ 25% ตามลำดับ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 59.6 ลบ. คิดเป็น 29% ของประมาณการทั้งปี
  • ผลประกอบการ 2Q62 มีแนวโน้มเติบโต YoY แต่อ่อนตัว QoQ: ภายหลังจากยอดขายรถใหม่ในช่วง 1Q62 อยู่ที่ระดับ 2.6 แสนคัน +11%YoY และคาดว่าช่วง 2Q62 ยอดขายรถใหม่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากการที่มีกลุ่มซัพพลายเออร์รายใหม่ส่งรถยนต์เข้าตลาดการประมูลอย่างต่อเนื่อง อาทิ TOYOTA BUZZ, เบนซ์ทองหล่อ และกลุ่มลูกค้าสถาบันการเงิน ประกอบกับการทำตลาดในปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นผลในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการช่วง 2Q62 มีแนวโน้มอ่อนตัวลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่แนวโน้มทั้งปี 62 ผู้บริหารยังคงยืนยันเป้าการเติบโตของรายได้ราว 12% เติบโตตามสถาบันไฟแนนซ์ขนาดใหญ่ที่คาดว่าปีนี้จะเติบโตราว 10-12% ทั้งนี้ ด้านมาตรการควบคุมสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ ธปท. อาจออกกฎเกณฑ์ในช่วงครึ่งปีหลัง อาจส่งผลผลกระทบต่อยอดขายรถใหม่ราว 2-6% แต่เราคาดว่าบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าว
  • คงประมาณการกำไรปี 62 ราว 203 ลบ. เติบโต 19%YoY : เราคงประมาณการรายได้ราว 775 ลบ. เติบโต 12%YoY ได้รับอานิสงส์จากปีผ่านมา หลังจากยอดขายรถใหม่ภายในประเทศแตะที่ระดับ 1.04 ล้านคัน +20%YoY ขณะที่ปี 62 คาดว่ายอดขายรถใหม่จะยังคงทรงตัวในระดับสูงที่มากกว่า 1 ล้านคัน (ที่มา : Toyota) ปัจจุบันมีปริมาณสต็อกรถยนต์รอประมูลจำนวนมาก และเพียงพอสำหรับปี 62 ด้วยสมมติฐาน %GPM ปรับตัวดีขึ้นมาที่ระดับราว 52% จากปี 61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 51% จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) และ %SG&A ปรับตัวดีขึ้นโดยลดลงมาที่ระดับ 19% จากปี 61 อยู่ที่ระดับ 21% เนื่องจากคาดว่าบริษัทฯจะใช้งบการตลาดน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 62 ราว 7 ลบ. เติบโต 19%YoY
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 8.00 บาท: เราประเมินราคาเหมาะสมโดยอิงจาก Prospective PE ที่ 21.7x ซึ่งเป็นระดับ -1.25SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี  พร้อมกับคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 62 ราว 0.37 บาทต่อหุ้น โดยประเมินราคาเหมาะสมปี 62 ราว 8.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาปัจจุบัน จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ปัจจัยเสี่ยง

i) อุตสาหกรรมยานยนต์ หรือยอดขายรถใหม่ภายในประเทศหดตัว
ii) NPL สินเชื่อเช่าซื้อ หรือรถยนต์ ปรับตัวดีขึ้น
iii) กลยุทธ์จับกลุ่ม End User ไม่เป็นไปตามที่คาด