'วิษณุ' ลั่นคนไทยได้นายกฯใหม่ พ.ค.นี้

'วิษณุ' ลั่นคนไทยได้นายกฯใหม่ พ.ค.นี้

"วิษณุ" การันตีได้นายกฯ ใหม่ภายในเดือนพ.ค.นี้ แจงขั้นตอนแต่งตั้ง ครม.-แถลงนโยบาย ใช้เวลาถึงสิ้นเดือนมิ.ย. ชี้ประธานสภาไม่จำเป็นต้องมาจากพรรคใหญ่

เมื่อวันที่ 23 พ.ค.62 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนส่งต่อไปยังรัฐบาลชุดใหม่ในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งหน้าต้องรู้ว่าอะไรที่ต้องรีบเคลียร์ให้ได้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื้อรังในรัฐบาลหน้า และสรุปสิ่งทีได้ทำมาเพื่อรายงานนายกฯ คล้ายๆเป็นการปิดเรื่องในส่วนที่ตนเองได้ทำมา แต่สุดแล้วรัฐบาลใหม่จะทำอย่างไร เมื่อถามว่า มองว่าการเป็นรัฐบาลรัฐประหารเข้ามาแต่อยู่ได้นานขนาดนี้จะเป็นผลดีหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ตนให้คนอื่นวิเคราะห์ เพราะเป็นเรื่องการติชม ส่วนจะชอบใจหรือไม่ก็แล้วแต่ทัศนะแต่ละคน ซึ่งทุกคนล้วนเป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์บ้านเมืองพร้อมกัน

นายวิษณุ กล่าวถึงขั้นตอนหลังจากเปิดรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ค.) ว่า จะได้นายกฯคนใหม่ภายในเดือนพ.ค.นี้ แต่ก่อนจะตั้งคณะรัฐมนตรีได้ รวมถึงต้องมีการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ และยังมีการแถลงนโยบาย ดังนั้นจะใช้เวลาสิ้นสุดไปถึงเดือนมิ.ย. เพียงแค่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก็ทำให้รัฐบาลเก่าพ้นไปแล้ว แต่รัฐบาลใหม่ยังทำงานยาก เพราะต้องมีการแถลงนโยบายภายใน 15 วัน เมื่อถามว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ อีกครั้ง จะเรียกว่าเป็นนายกฯคนที่ 30 หรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า หากพูดถึงคนยังคงเป็นนายกฯคนที่ 29 อยู่ เช่น จอมพลป. เป็นนายกฯหลายครั้งก็นับเป็น 1 ป. รวมถึงนายกฯคนอื่นๆแม้จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งก็นับเป็น 1 เท่านั้น

นอกจากนี้ยืนยันว่า ในส่วนของตนเองยังไม่มีใครติดต่อทาบทามให้เป็นรองนายกฯในรัฐบาลหน้า และไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน อีกทั้งยังไม่ขอบอกถึงอนาคตเส้นทางการเมืองของตนเอง

อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีใครเป็นผู้ไปทาบทาม และไม่เชื่อว่ามีใครถูกทาบทาม เพราะใครจะเป็นรัฐบาลยังไม่ทราบ จึงไม่มีใครไปตั้งเงื่อนไขหรือเตรียมการ แต่สำหรับพรรคที่จะร่วมกันเป็นรัฐบาลเวลานี้ก็คงยังไม่พูดถึงตัวบุคคลด้วยซ้ำ อาจจะพูดถึงตำแหน่งเท่านั้น เพราะต้องได้ตำแหน่งถึงจะรู้ว่าใครจะเหมาะ หากเอาคนขึ้นมาก่อนตำแหน่งก็จะซี้ซั่ว แต่วันนี้ยังไม่รู้ว่าพรรคไหนจะจับมือกันตั้งรัฐบาลด้วยซ้ำ ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนที่หนึ่ง ก่อนจะคิดถึงขั้นตอนต่อไป และทุกขั้นตอนมีโอกาสสะดุดได้หมด เนื่องจากเคยมีแล้วที่จับมือกันจะเป็นรัฐบาล แบ่งโควต้า และได้รัฐมนตรีแล้ว พอไปถึงขั้นตอนการร่างนโยบายก็เกิดปัญหาและต้องเลิกเลย เพราะบางพรรคไม่ยอมหามไม่ยอมเอานโยบายของตนเองไปร่วมด้วย ซึ่งล้วนเกิดมาแล้วทั้งสิ้น