กังวลสงครามการค้า

กังวลสงครามการค้า

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นแรง หลังจากที่ดัชนีร่วงลงติดต่อกันหลายวัน พร้อมกับปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค

หลังจากที่สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มผ่อนคลายลง ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขณะที่หุ้นกลุ่ม Big Cap ที่หนุนตลาดได้แก่ CPALL SCB และ CPN ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,626.91 จุด (+16.42 จุด) Volume 5.1 หมื่นลบ. จาก Foreign 2,267.04 ลบ. TFEX Net +8,519 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +1,902 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองในสัปดาห์ที่แล้ว+15%yoy จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อ refinance +31% หลังจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับตัวลง

+อังกฤษเปิดเผยราคาผู้บริโภคในเดือนเม.ย.+2.1% เพิ่มขึ้นจาก +1.9% ในเดือนมี.ค.แม้เป็นระดับสูงที่สุดในปีนี้แต่ยังต่ำกว่าคาดการณ์ของธนาคารกลางอังกฤษที่ระดับ 2.2% ส่งผลให้มีคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะยังคงอัตราดอกเบี้ย

-ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งหลุด 62 ดอลลาร์ -1.71 ดอลลาร์ -2.7% ปิด $61.42 ต่อบาร์เรล หลังมีรายงานสต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งขึ้นติดกัน 2 สัปดาห์ สวนทางคาดการณ์ลดลง

- ดาวโจนส์ -100.72 จุด -0.39% กังวลสงครามการค้า และการร่วงลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หุ้นสาธารณูปโภค และหุ้นควอลคอม อิงค์ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ

-ศาลนิวยอร์กตัดสินให้สภาคองเกรสมีอำนาจขอรายการธุรกรรม "ทรัมป์"

-ส่งออกของไทยเดือนเม.ย. -2.57% จากตลาดคาด -2.5% ส่งออก 4M62 -1.86% กดดันความเสี่ยงที่จะเห็นการส่งออกทั้งปีหดตัว

-รายงานกนง.มองเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันการค้า-ความไม่แน่นอนทางการเมือง และภาวะภัยแล้งที่อาจส่งผลต่อกำลังซื้อของเกษตรกร มองสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงในระยะข้างหน้า

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -2.25 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 31.92 บาท/US

*จับตาประเด็นการเมือง-พรรคปชป.ลงมติว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่-ศาลรธน.พิจารณาคำร้องกกต.กรณีนายธนาธรถือหุ้นสื่อว่าจะรับคำร้องหรือไม่

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแผ่วลงจากความกังวลสงครามการค้าที่มีท่าทีรุนแรงขึ้นและอาจยืดเยื้อ การที่ Consensus ทยอยปรับลดประมาณการ GDP ปี 62 ของประเทศไทย  รวมทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังไม่แน่นอนเรื่องจัดตั้งรัฐบาลใหม่ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,614-1,640 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ดัชนี MSCI Thailand หุ้นเข้า : RATCH INTUCH DTAC หุ้นออก : DELTA
  • ดัชนี MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า : INTUCH AAV BLA EASTW  PSH TASCO หุ้นออก : MC  PRINC  THCOM  TFG  VGI  VIBHA
    มีผล 28 พ.ค.
  • หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ : SE-ED COL LPN PSH SPALI ROBINS BJC ERW

หุ้นรายงานพิเศษ

PR9 Analyst meeting ราคาปิด 10.5 บาท Bloomberg consensus 13.08 บาท “Neutral”

  • รายงานกำไร 1Q62 เท่ากับ 86 ลบ. +65%YoY โดยมีรายได้หลัก เท่ากับ 695 ลบ. +2%YoY รายได้เติบโตทั้งกลุ่ม OPD และ IPD ทั้งจากผู้ป่วยโรคซับซ้อน รวมถึงมีผู้ป่วยเข้ารับบริการเปลี่ยนไตมากขึ้น ส่วน %EBITDA ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 20.4% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 15.5% เนื่องจากปีที่ผ่านมามีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาในการนำหุ้นเข้าตลาด ส่งผลให้ %NP ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 12.2% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 8%
  • UPDATE ตึกใหม่ : ปัจจุบันอยู่ในช่วงระหว่างการก่อสร้างและตกแต่งภายใน มีความคืบหน้าโดยรวม 70-80% พร้อมเปิดให้บริการเฟส 1 ในช่วง 4Q62 ซึ่งจะทำให้มีจำนวนเตียง ณ ปลายปี 62 เพิ่มขึ้นเป็น 247 เตียง จากปี 61 ที่มี 166 เตียง
  • ความเห็น มีมุมมอง Neutral แม้รายได้มีแนวโน้มเติบโตตาม Capacity ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับจำนวนเคสของผู้ป่วยรอเปลี่ยนไตที่อยู่ในระดับสูงที่ 121 คน จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 80 คน อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการอาจถูกกดดันจากค่าใช้จ่าย Employee benefit ที่จะกระทบใน 2Q62 ราว 28 ลบ. และมีค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเพิ่มอีกราว 25-30 คน ในช่วง 3Q62 เพื่อรองรับอาคารใหม่ นอกจากนี้ ในช่วง 4Q62 คาดว่าบริษัทจะค่าใช้จ่ายในการทำตลาดเพื่อโปรโมทอาคารใหม่ โดย Bloomberg consensus คาดกำไรปี 62 ราว 300 ลบ. +4%YoY

หุ้นมีข่าว   

SC Analyst Meeting (ราคาปิด 2.78 แนะนำถือลงทุนยาวรับเงินปันผล ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 3.53)

·      1Q62 มีรายได้ 3,182 ล้านบาท +19%YoY รายได้เติบโตทั้งในส่วนรายได้อสังหาฯและรายได้ค่าเช่า กำไรสุทธิ 315 ล้านบาท +20%YoY แม้ %GP ลดเหลือ 34% จาก 35% ใน 1Q61 จากผลกระทบของมาตรฐานบัญชี IFRS15 แต่ %SG&A ปรับดีขึ้นโดยลดเหลือ 20.6% จาก 22.3% ส่วน %NP ทรงตัวที่ 9.9% ด้านยอดขาย presale ทำได้ 2,805 ลบ. -23%YoY -13%QoQ เนื่องจากไม่ได้เปิดขายโครงการใหม่เลย  แผนเปิดขายโครงการใหม่ทั้ง 13 โครงการมูลค่ารวม 22,660 ล้านบาทอยู่ในช่วง Q2 – Q4 ปลายมี.ค. 62 มี backlog 9,744 ล้านบาทโดยมีคอนโดฯที่โอนต่อเนื่องจากปีทีแล้ว 2 โครงการได้แก่ BEATNIQ มียอดจองแล้ว 41% และ ศาลาแดง วัน มียอดจองแล้ว 58%  และคอนโดฯที่จะเสร็จพร้อมโอน 2 โครงการได้แก่ 28 ชิดลม มูลค่ารวม 8 พันล้านบาท มียอดจอง 56% จะเริ่มโอน Q3 และ Centric รัชโยธิน มูลค่ารวม 1,500 ล้าบาท มียอดจอง 76% จะเริ่มโอน Q4  หนุนผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังสูงกว่าครึ่งปีแรก

·      ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวและเป็นหุ้นที่มี yield สูง ทั้งนี้  Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 1,850 ล้านบาท +4% และ IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 6.5% แนะนำถือลงทุนระยะยาวรอรับเงินปันผล

·      เอกชน 3 รายผ่านเข้ารอบชิงประมูลดิวตี้ฟรี ได้แก่ 1) บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด 2) กลุ่มบมจ.การบินกรุงเทพ (BA) และ 3) กลุ่ม บมจ.โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) (ROH)  ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทั้ง 3 รายนำเสนอผลงานในวันที่ 27 พ.ค.นี้ และจะเปิดข้อเสนอด้านการเงินในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เวลา 09.30 น. และคาดว่าจะทราบผลการประมูลในวันดังกล่าว (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·      BEC (ราคาปิด 8.85 บาท Bloomberg Consensus 9.21 บาท) ผลงานครึ่งหลังสดใส เหตุต้นทุนลดลง 400-500 ล้านบาท จากการคืนใบอนุญาต โบรกฯเชื่อปี 62 กำไรสุทธิ 944 ล้านบาท ขานรับบันทึกกำไรพิเศษ 1,240 ล้านบาท จากการปรับค่าตัดจำหน่าย ใบอนุญาตทีวีดิจิทัล แถมค่าชดเชยใบอนุญาตช่อง 3 Family และ 3 SD (ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)

·      BCP (ราคาปิด 28.75 บาท Bloomberg Consensus 36.46 บาท)  ลั่นแนวโน้มผลงานในไตรมาส 2 ดี ยันไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ตะวันออกกลาง เหตุจัดหาเพียง 1% ส่วนใหญ่มาจากแหล่งอื่น พร้อมได้รับผลดีมาตรการ IMO ชี้ความต้องการใช้น้ำมันเตาซัลเฟอร์ต่ำเพิ่ม (ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)

·      CPN (ราคาปิด 75 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 84.51) คาดผลการดำเนินงานใน2Q62 จะเติบโตต่อเนื่องจาก 1Q62 เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจหลักศูนย์การค้า โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายศูนย์การค้าเดิม (SSSG) จะเติบโตมากขึ้น จากไตรมาสแรกที่มียอดขายของศูนย์การค้าเดิมเติบโต 2.4% เนื่องด้วยศูนย์การค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดมีการแข่งขันสูง แต่บริษัทฯ ยังสามารถเพิ่มรายได้ค่าเช่าในศูนย์การค้าเดิมได้  คาดยอดขายของศูนย์การค้าเดิมในปีนี้เติบโตเฉลี่ย 3% ได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกันในส่วนของศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ ก็มีการต่อสัญญากับห้างสรรพสินค้าเซน (Zen Department Store) ก็คาดว่าจะเห็นรายได้เข้ามาเพิ่มเติมใน 2Q62 รวมถึงยังรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากศูนย์อาหาร และโรงแรม นอกจากนี้บริษัทฯ จะมีการบันทึกรายได้จากค่าสินไหมทดแทน กรณีเกิดเพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จากบริษัทประกันภัยเข้ามาในไตรมาส 2/62 ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่เกิน 100 ล้านบาท

  • บอร์ด TWZ อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน วงเงินไม่เกิน 120 ลบ. ตั้งแต่ 6-26 มิ.ย.นี้ และบ.ย่อยเข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงงขยะอุตสาหกรรม มูลค่า 291 ลบ.
  • JWD จ่อปิดดีลเทกโอเวอร์ธุรกิจอาหารครึ่งหลัง 1 ราย กอดเงินสดแน่น 800 ล้านบาท ฟากผลงานไตรมาส 2 โตไม่หยุด บุ๊กธุรกิจอาหารเต็มไตรมาส การันตีครึ่งหลังโตอีกรับไฮซีซั่น ดันรายได้ทั้งปีเพิ่ม 20% หนุนกำไรทั้งปีพุ่ง (ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)
  • PF มั่นใจยอดขาย-ยอดโอนกรรมสิทธิ์ปีนี้มาตามนัด 9 หมื่นล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อก 5.6 พันล้านบาท แถมมีสต๊อกกว่า 1 หมื่นล้านบาท ล่าสุดร่วมพันธมิตรญี่ปุ่นผุดบ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์ มูลค่า 2.2 พันล้านบาท หนุนผลงานปี 2562 (ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)
  • EGCO (ราคาปิด 288 บาท Bloomberg Consensus 67 บาท) เดินหน้าจัดทำ EIA ลุยพัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าระยอง เป็นนิคมอุตสาหกรรม EEC เพื่อรองรับการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมเดินหน้าก่อสร้าง 3 โครงการ ทั้งโรงไฟฟ้า "ไซยะบุรี" และ "น้ำเทิน 1" ในลาว และโรงไฟฟ้า "ซานบัวนาเวนทูรา" ในฟิลิปปินส์ (ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)
  • SPCG (ราคาปิด 17.7 บาท Bloomberg Consensus 21.3 บาท)  ลุยขยายงานโซลาร์ฟาร์มทั้งในและต่างประเทศ พร้อมชิงเค้กโครงการโซลาร์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธร 45 MW ของ กฟผ. มั่นใจแข่งสู้ด้านราคาได้ ขณะที่โครงการโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นยังเดินหน้าตามแผน คงเป้ารายได้ปีนี้แตะ 7,000 ล้านบาท (ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)