ทีดับบลิวแซด ทุ่ม 120 ล้าน ซื้อหุ้นคืน เริ่ม 6-26 มิ.ย.

ทีดับบลิวแซด ทุ่ม 120 ล้าน ซื้อหุ้นคืน เริ่ม 6-26 มิ.ย.

บอร์ด "ทีดับบลิวแซด" อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท เริ่ม 6-26 มิ.ย.นี้ พร้อมเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ 291 ล้านบาท

บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ 5/2562 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน ตามมติคณะกรรมการบริษัทภายในวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนประมาณไม่เกิน 850 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท จำนวนหุ้นประมาณ 9.94% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยจะเป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์กำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 14 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่ 6-26 มิ.ย.2562

นอกจากนี้คณะกรรมการบริหารของบริษัท มีมติให้บริษัทย่อย คือ บริษัท เกียร์ ทู คอร์ปอเรชั่น (GEAR 2) เข้าลงทุนโดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท มิตรา คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MITRA) ในสัดส่วน 52.63% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว หรือจำนวนหุ้นสามัญ 1,368,304 หุ้นมุลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จากบริษัท สุธี โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม มีมูลค่าการลงทุนรวม 291 ล้านบาท และเข้าทำรายการภายในวันที่ 31 พ.ค.2562

บริษัท มิตรา คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจการถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในบริษัท พีจี แอนด์ ซี 5714 จำกัด (PGC) จำกัดในสัดส่วน 99% ซึ่งดำเนินโครงการบริษัท พีจี แอนด์ ซี 5714 จำกัด (PG&C) ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จังหวัดอยุธยา โดยเป็นโรงไฟฟ้าระบบพาสม่าแก๊สสิฟิเคชั่นในการเผาและผลิตไฟฟ้า กำลังในการผลิตไฟฟ้า 3 เมกะวัตต์ (MW) กำจัดขยะได้สูงสุดถึง 60 ตันต่อวัน และสามารถขยายธุรกิจเป็นสถานที่กำจัดขยะอุตสาหกรรมต่อไป รับซื้อไฟฟ้าพิเศษจากขยะอุตสาหกรรมในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT)

นอกจากนี้ถือหุ้นในบริษัท ถัง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TC) ในสัดส่วน 99% เช่นกัน เพื่อดำเนินกิจการโรงงานคัดแยกมูลฝอยและโรงผลิต RDF ประกอบธุรกิจแปรสภาพขยะเป็นวัสดุรีไซเคิล และเชื้อเพลิง RDF ตั้งอยู่ที่อำเภออุทัย จังหวัดอยุธยา สามารถกำจัดขยะอุตสาหกรรมและขยะชุมชนด้วยการคัดแยกและแปรสภาพ โดยขายวัสดุจากการดำเนินการ ดำเนินการเต็มกำลังการผลิต 300 ตันต่อวัน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและต่อเนื่องในการส่งวัตถุดิบให้กับโรงไฟฟ้าในการผลิตกระแสไฟฟ้า

รวมทั้งถือหุ้นบริษัท เค.บี.เอ็ม.คอนสตรัคชั่น จำกัด โดย MITRA ถือหุ้น 99% ประกอบธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก (Holding Company) ซึ่งได้ถือหุ้น PGC ในสัดส่วน 50%

แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 291 ล้านบาท มาจากเงินเพิ่มทุนที่ได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น ที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบันโดยรวมแหล่งเงินทุนจากการขายเงินลงทุนของบริษัท เกียร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทอีกจำนวนประมาณ 130 ล้านบาท