'อีสท์ วอเตอร์' รับมือภัยแล้ง เพิ่มการจัดการน้ำรับอีอีซี

'อีสท์ วอเตอร์' รับมือภัยแล้ง เพิ่มการจัดการน้ำรับอีอีซี

เปิดมาตรการรับมือภัยแล้ง ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพระบบสูบและผันน้ำระยะไกล เตรียมแหล่งน้ำดิบสำรองมั่นใจ พื้นที่ภาคตะวันออกและอีอีซีมีน้ำใช้เพียงพอ

นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยว่า ได้เตรียมมาตรการรับมือภับแล้งปีนี้ ได้แก่ การปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบสูบน้ำในทุกพื้นที่ การเพิ่มประสิทธิภาพการสูบผันน้ำข้ามพื้นที่ และการเตรียมน้ำดิบจากบ่อดินเอกชนเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนมีน้ำใช้อย่างพอเพียง
โดยปัจจุบันจากการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและบูรณาการแบบอีสท์วอเตอร์โมเดล ที่ได้พัฒนาระบบท่อส่งน้ำดิบด้วย Water Grid เชื่อมโยงแหล่งน้ำสำคัญในภาคตะวันออกกว่า 491.8 กม. ทำให้ภาคตะวันออกมีน้ำใช้อย่างเพียงพอกับความต้องการของทุกภาคส่วน

นอกจากนี้อีสท์ ยังมีศูนย์ปฏิบัติการน้ำภาคตะวันออก (Water War Room)เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำภาคตะวันออกในพื้นที่จ.ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทราโดยมีแผนการสำรองคือการสูบผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์-คลองใหญ่ และมีการประสานงานกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด

ในส่วนของนโยบายเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซีนั้นจากการสำรวจความต้องการของผู้ประกอบการรายใหม่ และรายเดิมที่มีแผนการขยายกำลังการผลิต พบว่าความต้องการบริการน้ำครบวงจร อันได้แก่ น้ำดิบ น้ำอุตสาหกรรม การบำบัดน้ำเสีย และการ Recycle มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

บริษัทฯจึงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจน้ำครบวงจรซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและนโยบายของรัฐบาลในโครงการอีอีซีซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจจากลูกค้าหลายราย นอกเหนือจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ โรงไฟฟ้า Gulf ปลวกแดง ซึ่งได้ลงนามในสัญญาซื้อขายน้ำอุตสาหกรรมแล้ว ยังมีนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอื่นๆ รวมทั้งลูกค้าที่อยู่นอกพื้นที่อีอีซีซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างนำเสนอการให้บริการน้ำครบวงจร