ผู้ก่อตั้ง“หัวเว่ย”ยันไม่ใช้ชิพอเมริกัน

ผู้ก่อตั้ง“หัวเว่ย”ยันไม่ใช้ชิพอเมริกัน

มั่นใจแรงกดดันจากสหรัฐไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทมากนัก

นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมขนาดใหญ่สัญชาติจีน ให้สัมภาษณ์นิกเคอิ  โดยยอมรับว่ามาตรการคว่ำบาตรบริษัทแต่เพียงฝ่ายเดียวของรัฐบาลสหรัฐส่งผลต่อการเติบโตของบริษัทในปีนี้เพียงเล็กน้อย เพราะบริษัทคาดการณ์ว่าจะเจอมาตรการลักษณะนี้จากสหรัฐมาระยะหนึ่งแล้ว จึงไม่แปลกเมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลสหรัฐตามที่ปรากฏเป็นข่าว

อย่างไรก็ตาม ทุกแผนกในบริษัทยังคงปฏิบัติตามแผนการรับมือที่เตรียมการไว้ล่วงหน้า พร้อมทั้งย้ำว่าบริษัทจะไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจตามความต้องการของรัฐบาลวอชิงตัน ที่รวมถึงการปรับโครงสร้างของฝ่ายบริหารและยอมให้มีการตรวจสอบ

นอกจากนี้ ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยยังระบุว่า บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องใช้ชิพที่ผลิตโดยบริษัทอเมริกัน โดยบริษัทจะเดินหน้าพัฒนาชิพของบริษัทต่อไป

การให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่นของนายเหริน มีขึ้นในช่วงเดียวกับที่กระทรวงการต่างประเทศจีน ออกแถลงการณ์เรื่องการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายหวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน กับนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งนายหวังกล่าวในตอนหนึ่งว่า รัฐบาลวอชิงตันไม่ควรกระทำการใดที่จะส่งผลให้ข้อพิพาทการค้ากับจีนบานปลายไปมากกว่านี้ และยืนยันว่า รัฐบาลปักกิ่งพร้อมเจรจา แต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า เตรียมออกมาตรการผ่อนผันให้หัวเว่ยเป็นเวลานาน 90 วัน เพื่อไม่ให้กระทบกับบริการที่มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลของรัฐที่มีประชากรอาศัยเบาบาง เช่นรัฐออริกอนและรัฐไวโอมิง ซึ่งมาตรการนี้รวมถึงการอนุญาตให้หัวเว่ยซื้อสินค้าและบริการของสหรัฐ เพื่อไม่ให้ลูกค้าของหัวเว่ยในสหรัฐได้รับผลกระทบ แต่มาตรการผ่อนผันนี้จะไม่มีผลครอบคลุมโครงการในอนาคต