อิหร่านวอนจีน-รัสเซียช่วยหลังตึงเครียดสหรัฐ

เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เผยแพร่คลิปวีดิโอนายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าววานนี้ (17 พ.ค.) ถึงการเยือนกรุงปักกิ่งว่า เขาจะหารือกับทางการจีนเรื่องความสัมพันธ์ทวิภาคี และปัญหาร้ายแรงยิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคทุกวันนี้

รมว.ต่างประเทศอิหร่านเรียกร้องให้ประชาคมโลก รักษาแผนปฏิบัติการร่วมอย่างครอบคลุม (เจซีพีโอเอ) หรือข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ที่อิหร่านทำกับมหาอำนาจโลก แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นำสหรัฐถอนตัวออกไปในเดือน พ.ค.2561 แล้วดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านแต่เพียงฝ่ายเดียว

“ถ้าประชาคมโลก สมาชิกเจซีพีโอเอรายอื่นๆ และเพื่อนของเราในเจซีพีโอเออย่างจีนและรัสเซีย ต้องการรักษาความสำเร็จนี้ไว้ พวกเขาก็จำเป็นต้องทำให้เห็นเป็นรูปธรรมเพื่อรับรองได้ว่าชาวอิหร่านจะได้ประโยชน์จากเจซีพีโอเอ” นายซารีฟระบุ

ขณะนี้สถานการณ์ในอ่าวเปอร์เซียตึงเครียดขึ้นทุกที เมื่อวันพฤหัสบดี (15 พ.ค.) อิหร่านปฏิเสธไม่เจรจากับสหรัฐ และว่าจะอดทนอดกลั้นจนถึงที่สุด หลังสหรัฐส่งกองทหารพิเศษเข้ามาในอ่าวเปอร์เซีย เพื่อคุมเชิงรัฐบาลเตหะราน

สัปดาห์ก่อนนายซารีฟกล่าวว่า มีเพียงรัสเซียและจีนเท่านั้นที่สนับสนุนอิหร่าน และช่วยให้ข้อตกลงนิวเคลียร์ดำรงอยู่ได้ ส่วนภาคีอื่นๆ มีแต่ทำให้เตหะรานผิดหวัง

หลังจากนั้นเขาเดินสายเยือนเติร์กเมนิสถาน อินเดีย และญี่ปุ่น ตามด้วยจีน ซึ่งเป็น 1 ใน 8 ลูกค้าน้ำมันอิหร่าน นอกเหนือจากอินเดีย ตุรกี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อิตาลี และกรีซ ประเทศเหล่านี้ได้รับอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ ก่อนที่สหรัฐจะยกเลิกการผ่อนผันให้เมื่อต้นเดือน พ.ค.

แต่แม้รัฐบาลวอชิงตันจะกดดันอย่างหนักอิหร่านก็ยังเดินหน้าขายน้ำมันของตนให้กับลูกค้าหลัก โดยเฉพาะจีนแม้ว่าต้องใช้วิธีการหลบเลี่ยงก็ตาม