บวกได้แต่ไม่มาก

บวกได้แต่ไม่มาก

SET Index วานนี้ปรับตัวลงในช่วงเช้าก่อนมีแรงซื้อกลับในช่วงบ่าย

โดยปัจจัยหลักที่กดดันตลาดยังคงเป็นความกังวลเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ขณะที่หุ้นกลุ่ม Big Cap ที่กดดันตลาดได้แก่ GULF PTT และ GLOW ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,614.75 จุด (-6.52 จุด) Volume 6.0 หมื่นลบ. จาก Foreign -1,969.74 ลบ. TFEX Net -7,219 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +1,690 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดบวกติดดต่อกันเป็นวันที่ 3 +214.66 จุด +0.84% ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

+สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 212,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

+สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านในเดือนเม.ย.+5.7%MoM สู่ระดับ 1.235 ล้านยูนิต สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

+ ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติของสหรัฐในเดือนพ.ค. พุ่งขึ้นสู่ระดับ 16.6 สูงสุดในรอบ 4 เดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

+ ราคาน้ำมัน WTI +85 เซ็นต์ ปิด $62.87 ต่อบาร์เรลจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง และอิหร่านประกาศเตรียมพร้อมรับมือการคุกคาม

-จีนลดการถือครองพันธบัติรัฐบาลสหรัฐในเดือนมี.ค.เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนเหลือ 1.121 ล้านล้านดอลลาร์ ต่ำสุดในรอบ 2 ปี

-จีนตอบโต้สหรัฐว่าการไม่ให้หัวเว่ยทำธุรกิจในสหรัฐเป็นการปิดกั้นการพัฒนาเทคโนโลยี 5G

-ม.หอการค้าฯปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้เหลือโต 3.5% จากเดิม 3.8% ส่งออกเหลือโต 0.5% จากเดิม 3.9%

-เดือนมิ.ย. ธปท.เตรียมทบทวน GDP ปีนี้ใหม่ คาดมีโอกาสโตต่ำกว่าที่ประเมินไว้ที่ 3.8% ส่วนธ.โลกจะปรับลด GDP ไทยปี 62 ในเดือนก.ค.

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -2.42 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 31.66 บาท/US

*จับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มดีดตัวปิดบวกได้แต่คงไม่มากขานรับตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันปิดบวก ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,630 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ดัชนี MSCI Thailand หุ้นเข้า : RATCH INTUCH DTAC หุ้นออก : DELTA
  • ดัชนี MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า : INTUCH AAV BLA EASTW  PSH  TASCO หุ้นออก : MC  PRINC  THCOM  TFG  VGI  VIBHA
    มีผล 28 พ.ค.
  • หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ : SE-ED COL LPN PSH SPALI  ROBINS BJC CENTEL ERW

หุ้นรายงานพิเศษ

Noble Analyst Meeting (ราคาปิด 18.70)

1Q62 มีรายได้ 3,663 ล้านบาท +370%YoY จากการโอนโครงการโนเบิล เพลินจิต และการขายที่ดินซึ่งถือเป็นรายการพิเศษ  ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ  1,309 ล้านบาท +902% YoY สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปลายมี.ค. 62 มี backlog 1.8 หมื่นลบ.ซึ่งคาดจะโอนในปีนี้ได้ราว 1.1 พันล้านบาท

แผนงานปี 62 มีแผนกลยุทธ์มุ่งเน้นสร้างกระแสเงินสดจากการระบายสินค้าพร้อมขายมูลค่า 5 พันล้านบาท การขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ การขยายเครือข่ายสู่ลูกค้าต่างชาติโดยตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้ 30-40% ของรายได้รวม เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุน การขยาย segment สินค้าที่มีระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเพียง 2% ปีนี้มีแผนเปิด 4 โครงการใหม่ในช่วง Q2-Q4 เป็นคอนโดฯทั้งหมด มูลค่ารวมราว 8 พันล้านบาท

แนวโน้มกำไรในช่วง 2Q62 มีโอกาสเติบโตสูง YoY จากการขายตึก D ส่วนที่เป็นอาคารสำนักงานและร้านค้าปลีกของโครงการโนเบิล เพลินจิต และคาดกำไรทั้งปีมีแนวโน้มสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อการเดินหน้าทำธุรกิจพัฒนาอสังหาฯโดยมี BTS เป็นพันธมิตร ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 62 มีแนวโน้มเติบโตสูงมากจากกลยุทธ์ทยอยขายที่ดินรอพัฒนาโครงการที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แนะนำ ซื้อเก็งกำไรขณะที่ราคาหุ้น +32%YTD

หุ้นมีข่าว   

·      TOP Analyst meeting (ราคาปิด 64.25  ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 81.27)

ผบห.ได้ให้ภาพรวมแนวโน้มของแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังนี้ 1) คาด spread แก๊สโซลีนในช่วง 2Q62 จะปรับตัวดีขึ้นจากอุปสงค์ที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐ และแรงซื้อจากภูมิภาคตะวันออกกลางก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลถือศีลอด 2) คาด spread น้ำมันดีเซลจะปรับตัวขึ้นในช่วง 2H62 จากความต้องการของเรือเดินทะเล ที่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซลแทนน้ำมันเตาตามมาตรการ IMO ที่ลดการใช้น้ำมันที่มีกำมะถันเกิน 0.5% โดยน้ำหนัก และคาด spread น้ำมันเตาจะปรับตัวลดลงจากมาตรการที่กล่าวไปข้างต้น 3) คาดผลิตภัณฑ์อะโรเมติก(พาราไซลีนและเบนซีน)มีแนวโน้มอ่อนตัวจากอุปทานที่มากขึ้นจากจีน โดยรวมคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานจะยังทรงตัวถึงแม้ในส่วนของโรงกลั่นจะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังถูกกดดันด้วยราคาส่วนต่างผลิตภัณฑ์อะโรเมติก โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรสุทธิปี 62 ที่ 13,473 ลบ. +33%YoY

·      MAKRO Analyst Meeting ราคาปิด 32.00 บาท Bloomberg Consensus 37.14 บาท “มุมมองบวก”

รายงานกำไร 1Q62 เท่ากับ 1,519 ลบ. -6.7%YoY แม้มีรายได้จากการขาย เท่ากับ 51,799 ลบ. +7%YoY เป็นผลมาจาก 1) เติบโตจากการเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศ 2 สาขา 2) การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม +4.4% และ 3) การเติบโตของยอดขายของกลุ่มธุรกิจฟูดเซอร์วิส โดย ณ สิ้นงวดมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 135 สาขา แบ่งเป็น ในประเทศ 129 สาขา และต่างประเทศ 6 สาขา ขณะที่ %GPM ลดลงมาที่ระดับ 9.9% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 10% จากแรงกดดันของสาขาในต่างประเทศ ส่วน %SG&A ปรับขึ้นมาที่ระดับ 8% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 7.8% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขยายสาขาต่างประเทศ ส่งผลให้ %NPM ลดลงมาที่ระดับ 2.9% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 3.4%

แผนการเติบโตปี 62: มีแผนเปิดสาขาในประเทศ 3 สาขา แบ่งเป็นเปิดช่วงเดือน ก.ค. 2 สาขา และช่วงเดือน ส.ค. 1 สาขา และสาขาที่ประเทศจีน 1 สาขา ซึ่งจะเปิดช่วงสิ้นปี โดยบริษัทตั้งงบลงทุนไว้ทั้งหมดราว 8 พันลบ. แบ่งเป็นภายในประเทศ 5 พันลบ. และ ต่างประเทศ 3 พันลบ. นอกจากนี้ บริษัทมีแผนธุรกิจต่อยอด New-S-Curve จากการปรับ Platform เข้าสู่ธุรกิจแบบ O2O (ให้บริการออนไลน์ + การจัดส่ง + เครดิตการค้า) โดยบริษัทได้ทดสอบแผนดังกล่าวมาเป็นระยะเวลา 4 เดือนแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี มีลูกค้าอยู่ในระบบดังกล่าวราว 2 หมื่นราย (ทั้งลูกค้าใหม่ + เก่า) และมียอดขายราว 1.4 พันลบ.ตลอดช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 ราว 6,073.7 ลบ. +2.2%YoY

·      SIRI Analyst Meeting (ราคาปิด 1.42 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 1.39) 1Q62 มีกำไรสุทธิ 405 ล้านบาท -61%QoQ ที่มีกำไรสูงสุดรายไตรมาสใน 4Q61 +32%YoY โดยมีรายได้ +27%YoY และมีส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ JV 65 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 126 ล้านบาทใน 1Q61 และขาดทุน 236 ล้านบาท ใน 4Q61  แนวโน้ม 2Q62 จะมีกำไรต่ำสุดรายไตรมาสในปีนี้เนื่องจากจะมีผลกระทบจากการบันทึกคชจ.ผลประโยชน์พนักงานราว 50-55 ล้านบาทและแผนการโอนที่ต่ำกว่าไตรมาสแรก ขณะที่กำไร 4Q62 มีแนวโน้มสูงสุดรายไตรมาสเนื่องจากมีแผนโอนมากที่สุด Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 2,440 ล้านบาท +19% IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 7% แนะนำ ถือ

·      CHEWA ราคาปิด 0.93 บาท ราคาเหมาะสม 1.42 (อยู่ในระหว่างทบทวนประมาณการเชิงลบ)

เข้าซื้อกิจการธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ "ไทยคอร์ป แคปปิตอล" 100% มูลค่า 358.58 ลบ.  ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รูปแบบโฮมออฟฟิศจากบริษัท และมียอดขายรอโอน (Backlog) เกือบ 100 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมด 765 ลบ. และยังมีแผนเปิดโครงการโฮมออฟฟิศใหม่ “รอยัล ซิตี้ บางบอน บาย ชีวาทัย” ใน 2Q62 นี้ (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

ความเห็น เป็นแผนของผู้บริหารตั้งแต่ต้นปีที่อยากซื้อกิจการ  โดยเราคาดว่ากิจการที่บริษัทเพิ่งเข้าซื้อจะช่วยหนุนรายได้ให้เป็นไปตามเป้าที่บริษัทวางไว้ที่ราว 2,880 ลบ. ขณะที่เดิมเราประมาณการกำไรปี 62 ราว 317 ลบ. +20% (อยู่ในระหว่างทบทวนประมาณการเชิงลบ)

·      MACO ส่งบริษัทย่อย “อาย ออน แอดส์” ซื้อหุ้น “โคแมส” เพิ่ม 30% ดันถือหุ้น 100% คาดเสร็จ มิ.ย.นี้ พร้อมส่ง VGM ซื้อหุ้น PBSB อีก 40% ดันถือหุ้นแตะ 65% ลุยหาลูกค้าใหม่ทดแทน คาดครึ่งหลังเข้าสู่สภาวะปกติ ย้ำเป้าปี 2562 โกยรายได้ 2,300-2,400 ล้านบาท เติบโต 30-35% ส่วนงบ Q1 มีกำไร 37 ล้านบาท ลดลง 30.20% (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·      BJC ลั่นไตรมาส 2/2562 ยอดขาย-รายได้โตต่อ หลังได้ลูกค้าบรรจุภัณฑ์กระป๋องรายใหม่ เดินเกมขยายสาขาทั้งมินิ Bic C, Hypermarket, และปรับปรุงสาขาร้านสะดวกซื้อในสปป.ลาว ด้านโรงงานบรรจุภัณฑ์มีแผนขยายสาขาควบคู่แผนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทั้งใน-ต่างประเทศ มั่นใจรายได้โตตามเป้า 7-9% (ที่มา : ทันหุ้น)

·      EPCO เตรียม COD โซลาร์ฟาร์มฟูเยี้ยนในเวียดนาม ขนาด 110 เมกะวัตต์ ปลายพ.ค.นี้ เร็วกว่ากำหนด 1 เดือน ดันกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมพุ่ง 555 เมกะวัตต์ หนุนรายได้ปีนี้นิวไฮโตทะลุ 50% (ที่มา : ข่าวหุ้น)

  • ORI คาดไตรมาส 2 ยอดโอนโตกว่าไตรมาสแรก หลังตุนแบ็กล็อกรอบุ๊กกว่า 34,082 ล้านบาท และสต๊อกสินค้าพร้อมขายกว่า 9,000 ล้านบาท เล็งเปิดคอนโดมิเนียมไตรมาสนี้ 3 โครงการ มูลค่ารวม 5,400 ล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)
  • TASCO คาดยอดขายยางมะตอยในไตรมาส 2/62 ทะลุ 4 แสนตัน หลังรับน้ำมันดิบเข้าโรงกลั่นปกติ ลุ้นสิ้น พ.ค. ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนก้อนแรก จากเหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นในมาเลเซีย มั่นใจปริมาณขายยางมะตอยทั้งปี 90 ล้านตัน (ที่มา : ข่าวหุ้น)
  • GGC ลั่นไตรมาส 2/2562 โตต่อเนื่อง รับอานิสงส์ความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซลเพิ่ม มั่นใจปริมาณการขายรวมปี 2562 โตมากกว่า 10% แตะ 400,000 ตัน แย้มเจรจาพันธมิตรต่างประเทศเพื่อร่วมลงทุน ผุดโครงการ NBC เฟส 2 มูลค่าการลงทุนราว 10,000-30,000 ล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)
  • B เพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิม 871 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 33 บาท รองรับการขยายธุรกิจ เผยอยู่ระหว่างศึกษาโครงการลงทุนธุรกิจพลังงาน พร้อมจัดสรรเงินลงทุนธุรกิจขนส่ง-ท่าเรือ-คลังสินค้า คาดการณ์ภายในปีนี้ EBITDA พลิกเป็นบวก หลังปรับโครงสร้างธุรกิจลงตัว (ที่มา : ทันหุ้น)
  • SABINA แย้ม Q2/2562 ฟอร์มแจ๋วกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน อานิสงส์ดีมานด์-สินค้าใหม่หนุน แถมย้ำเป้ารายได้ปี 2562 โต 10% จากปีก่อนที่ 1 พันล้านบาท รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว พร้อมเดินหน้าบุกตลาด CLMV สยายปีกรับทรัพย์เพิ่ม ดีลพาร์ตเนอร์ต่างแดนอัพกำลังผลิต ชี้ต้นทุนต่ำ-กำไรขั้นต้นสวย (ที่มา : ทันหุ้น)
  • THAI ลั่นเร่งปิดดีลขายเครื่องบิน A340 จำนวน 8 ลำ วงเงิน 4,000 ล้านบาท คาดเซ็นสัญญาภายในไตรมาส 2 นี้ ส่วนผลงาน Q1 กำไรทรุด 83% เหลือ 456 ล้านบาท เหตุรายได้ลดเกือบ 7% จากเงินบาทแข็งค่า ผนวกปริมาณการผลิตผู้โดยสารทรุด เพราะเหลือเครื่องบินใช้ได้แค่ 90 ลำ แถมค่าใช้จ่ายพุ่ง (ที่มา : ข่าวหุ้น)