มีโอกาสฟื้นตัวจากแนวรับ 1630 จุด แต่ยังคงความระมัดระวัง

มีโอกาสฟื้นตัวจากแนวรับ 1630 จุด แต่ยังคงความระมัดระวัง

น้ำมันขึ้นจากเหตุก่อการร้าย จับตามเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับการเจรจาการค้า

ราคาน้ำมันปรับขึ้นหลังกลุ่มก่อการร้ายโจมตีท่อส่งน้ำมันในเมืองยานบู ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งต่อเนื่องจากการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันช่วงสองวันก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาการค้า โดยผ้แทนการค้าสหรัฐฯ จะทำการรับฟังความเห็นการปรับขึ้นภาษีสินค้าที่เหลือวงเงิน 3 แสนล้านเหรียญฯ ในวันที่ 17 มิ.ย. ขณะที่มีความเป็นไปได้ที่สถานการณ์เจรจาอาจผ่อนคลายมากขึ้นหลังการประชุม G20 ในวันที่ 28-29 มิ.ย. ซึ่งตลาดคาดอาจทำให้เกิดข้อตกลงชะลอการขึ้นภาษี เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในการประชุม G20 ช่วงธ.ค.61 ที่ผ่านมา

ผลกระทบของสงครามการค้าต่อกลุ่มต่างๆ ในเชิงบวก ได้แก่ 1) กลุ่มอาหาร คาดได้ผลบวกด้านต้นทุนอาหารสัตว์จากราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำ 2) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ได้ผลบวกจากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน 3) กลุ่มการเงิน ความขัดแย้งที่ถ่วงการเติบโต อาจทำให้สหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ขณะที่ผลกระทบในเชิงลบ อาจเกิดกับหุ้นในกลุ่มต่อไปนี้ 1) พลังงาน จากเศรษบกิจโลกที่ชะลอ 2) ปิโตรเคมี จากการขึ้นภาษีรอบใหม่ บรรจุภัณฑ์ของมือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้ามาจากเม็ดดพลาสติก 3) ท่องเที่ยว จากการที่จีนอาจกดเงินหยวนอ่อนลง ทำให้กำลังซื้อนักท่องเที่ยวจีนลดลง

อาจฟื้นตัว แต่ยังคงระมัดระวังและเลือกหุ้นบริโภคในประเทศหรือปลอดภัย บรรยากาศการลงทุนยังอยู่ในกลุ่มหุ้นปลอดภัย อาทิ ไฟฟ้า, สาธารณูปโภค และกองทุนต่างๆ โดยยังคงความระมัดระวังในการเก็งกำไรเชิงตั้งรับ และรอจังหวะทยอยสะสม GPSC, CPF, TU, GFPT, SAWAD, AEONTS, TK, GCAP, AMANAH, PSH, AP, SPALI หรือกลุ่มที่ผลการดำเนินงานมั่นคง อาทิ GUNKUL*, SSP*, AQUA* / หุ้นเข้า MSC Global (+) INTUCH, RATCH, DTAC / MSCI Smal cap (+) AEONTS, AAV, BLA, EASTW, PSH, TASCO

 

ภาพรวมกลยุทธ์: มีโอกาสฟื้นตัวจากแนวรับ ระดับ 1620-1630 จุด แต่ไม่ผิดความเสี่ยงลง 1600+/- จุด ยังคงมุมมองระมัดระวังในระยะสั้นและควรกำหนดจุดตัดขาดทุน และเก็งกำไรเชิงตั้งรับ // หุ้นแนะนำวันนี้ PSH, EASTW* เก็งกำไร AEONTS* (เป้า 220 ตัดขาดทุน 189), RJH* (เป้า 30 ตัดขาดทุน 23.40)

แนวรับ 1620-1630 / แนวต้าน : 1640 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

ทรัมป์เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาด – ทรัมป์เผยเตรียมเจรจาการค้ากับจีนในการประชุม G20 ช่วงปลายเดือน มิ.ย. นี้ (28-29 มิ.ย.) พร้อมส่งสัญญาณต่อตลาดว่ามีโอกาสที่จะทราบผลการเจรจาในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้

ทรัมป์กระตุ้นเฟดลดดอกเบี้ย – ทรัมป์แนะเฟดลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจอย่างที่จีนทำ เพื่อเพิ่มความได้เปรียบและโอกาสชนะสงครามการค้า

รายงานประจำเดือนโอเปก – โอเปกเปิดเผยรายงานประจำเดือน พ.ค. ระบุว่าอุปสงค์น้ำมันมีโอกาสสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในปีนี้ ขณะที่ปริมาณน้ำมันจากคู่แข่ง เช่น shale oil ของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงซึ่งจะบ่งชี้ถึงภาวะตลาดน้ำมันที่ตึงตัวหากโอเปกไม่ทำการปรับเพิ่มกำลังการผลิต โดยโอเปกจะจัดการประชุมอีกครั้งในวันที่ 25-26 มิ.ย. นี้

บอนด์ยีลอาจพุ่งหากจีนหยุดซื้อพันธบัตร – นักวิเคราะห์เตือนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอาจพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง หากจีนเลือกใช้วิธียุติการซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้มาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ

ประเด็นติดตาม: 15 พ.ค. – ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ, ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน, รายงาน GDP ไตรมาส 1/62 ยุโรป / 17 พ.ค. – ความเชื่อมั่นผู้บริโภค

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)