กังวลสงครามการค้ายืดเยื้อ

กังวลสงครามการค้ายืดเยื้อ

SET Index วานนี้ปรับตัวลงตามตลาดภูมิภาค โดยปัจจัยหลักที่กดดันตลาดยังคงเป็นความกังวลเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

ขณะที่หุ้นกลุ่ม Big Cap ที่กดดันตลาดได้แก่ PTTGC PTT  IVL ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,640.13 จุด (-8.56 จุด) Volume 4.1 หมื่นลบ. จาก Foreign -703.51 ลบ. TFEX Net -1,214 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +1,316 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

-ดาวโจนส์ร่วงหนัก 617.38 จุด -2.38% กังวลสงครามการค้าหลังจีนแถลงตอบโต้สหรัฐด้วยการปรับเพิ่มพิกัดอัตราศุลกากรที่เก็บจากสินค้าสหรัฐ วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 5% จนถึง 25% มีผล 1 มิ.ย.

-ประธานเฟดสาขามินเนอาโพลิสกล่าวว่าสหรัฐอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับจีนในการทำสงครามการค้า เนื่องจากศก.มีขนาดใหญ่กว่า มีความอ่อนไหวน้อยกว่าต่อการทำการค้า

- ราคาน้ำมัน WTI ลดลง 62 เซ็นต์ ปิด $61.04 ต่อบาร์เรล จากความกังวลทางอุปทาน และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนล้มเหลว

-ปัจจัยการเมืองกังวลเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลใหม่ที่แกนนำสองขั้วมีคะแนนเสียงห่างกันไม่มาก

+MSCI ประกาศผลการทบทวนดัชนี และตลาดหุ้นไทยเป็น 1 ใน 4 ตลาด Emerging Market ที่จะถูกปรับเพิ่มน้ำหนัก

+ธปท.ไม่กังวลสหรัฐจัดไทยเข้าบัญชีคู่ค้าที่มีนัยสำคัญ ยืนยันไม่เคยแทรกแซงค่าเงินชิงความได้เปรียบการค้า

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -1.87 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 31.64 บาท/US

**จับตา สหรัฐ เปิดเผย ราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย.

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับลดลงจากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีนหลังจีนออกมาตรการตอบโต้สหรัฐ  ทำให้ประเด็นบวกเรื่อง MSCI re-balance มีน้ำหนักไม่มากนัก   คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

- ดัชนี MSCI Thailand หุ้นเข้า : RATCH  INTUCH  DTAC หุ้นออก : DELTA

- ดัชนี MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า : INTUCH AAV  BLA  EASTW  PSH  TASCO หุ้นออก : MC  PRINC  THCOM  TFG  VGI  VIBHA
มีผล 28 พ.ค.

- หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ : SE-ED COL LPN PSH SPALI  ROBINS BJC CENTEL ERW

- หุ้นได้ประโยชน์จากฤดูร้อน : เครื่องปรับอากาศ (SNC KOOL) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (EA BCPG SSP GUNKUL) เครื่องดื่ม(TACC SAPPE ICHI  OISHI  OSP  CBG

หุ้นรายงานพิเศษ

NER Analyst Meeting ราคาปิด 2.26 บาท ราคาเหมาะสม 3.32 บาท

รายงานกำไร 1Q62 เท่ากับ 101 ลบ. (คิดเป็น 17.7% ของประมาณการกำไรทั้งปี) -15.4%YoY แม้มีรายได้หลักเท่ากับ 3,038 ลบ +84.3%YoY จากปริมาณขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม %GPM ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 8.2% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 12.4% เนื่องจากราคาขายที่ปรับตัวขึ้นช้ากว่าราคาต้นทุนที่เพิ่มขึ้น  ส่งผลให้ %NPM ลดลงมาที่ระดับ 3.3% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 7.1%

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 2Q19 คาดว่าจะเติบโต YoY จากราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาต้นทุนเริ่มทรงตัว ประกอบกับสายการผลิตใหม่ยาง RSS-Mixture เริ่มดำเนินการแล้วเมื่อ เม.ย. 62 ช่วยเพิ่ม Capacity อีก 60,000 ตัน/ปี ส่งผลให้กำลังผลิตรวมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 292,800 ตัน/ปี ขณะที่ Employee benefit กระทบเพียงแค่ราว 1.2 ลบ. โดยเราคาดการณ์กำไรปี 62 ราว 569.4 ลบ. +17%YoY (เตรียมปรับลดประมาณการลงเล็กน้อย)

หุ้นมีข่าว   

·      PLAT Analyst Meeting ราคาปิด 6.30 บาท Bloomberg consensus 7.58 บาท

รายงานกำไร 1Q62 เท่ากับ 201 ลบ. -1%YoY โดยมีรายได้รวม เท่ากับ 604 ลบ. +14%YoY จากการเปิดโครงการใหม่ ได้แก่ The Market และ Neon Night Bazaar เฟส 2 อย่างไรก็ตาม %GPM ของรายได้ค่าเช่าและบริการ ปรับตัวลงสู่ระดับ 63% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 75% เนื่องจากทั้ง 2 โครงการมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่า ขณะที่ %GPM ของรายได้โรงแรมก็ปรับตัวลงเช่นกัน สู่ระดับ 53.2% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 56.4% เนื่องจากอัตราค่าพักต่อคืนที่ปรับลงมาที่ 3,472 บาท -1%YoY ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายให้กับตัวแทนการเดินทาง (Agent) ส่งผลให้ %NP ลดลงมาที่ระดับ 33% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 38%

UPDATE โครงการ The Market: เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 ก.พ.62 โดยงวด 1Q62 มี อัตราการใช้พื้นที่อยู่ที่ 77% และค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 1,112 บาท/ตร.ม. ซึ่งต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 1,700 บาท/ตร.ม. เนื่องจากเป็นช่วงเปิดโครงการใหม่จึงมีการให้ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่จนถึงเดือน พ.ค.62 นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนสร้าง Traffic ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามายังห้างมากขึ้น เช่น 1) จ้าง 2 บริษัทด้านมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งเชียวชาญด้าน Device & Data ทำการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน  และ 2) New Anchor (อยู่ในระหว่างการเจรจา คาดเห็นความชัดเจนช่วง 3Q-4Q62) ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้คนเข้ามายังห้างมากขึ้น

ความเห็น เรามีมุมมอง Neutral ต่อแผนการเติบโตปี 62 และคาดว่าโครงการ The Market ยังถูกกดดันในหลายด้าน ทั้งอัตราค่าเช่าพื้น และจำนวนคนเข้าห้างที่ยังไม่เป็นไปตามเป้า โดย Bloomberg consensus คาดกำไรปี 62 ราว 889 ลบ. +13.2%YoY

·      QH Analyst Meeting (ราคาปิด 2.96 ซื้อ Bloomberg Consensus 3.51)

1Q62 มีกำไรสุทธิ 870 ล้านบาท +3%YoY  รายได้หลักมาจากการโอนคอนโดฯ เพิ่มขึ้น รายได้จากโรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ พัทยาที่เปิดปลายปี 61 และส่วนแบ่งรายได้โดยเฉพาะจาก HMPRO ที่เติบโตดี 14% %GP รวมลดเหลือ 32.7% จาก 33.6% ใน 1Q61 จากการเร่งระบายสต๊อกบ้านเก่า %NP ลดเหลือ 11.8% จาก 13.1% ใน 1Q61

ผู้บริหารคาดแนวโน้มรายได้ 2Q62 ใกล้เคียงกับ 1Q62 แผนเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการเน้นเปิดในช่วงครึ่งปีหลัง มูลค่ารวม1.18 หมื่นล้านบาท  ประเมินผลกระทบจากมาตรฐานบัญชี TFRS15 ไม่มีนัยสำคัญ เนื่องจากแม้ %GP ลดลงแต่คชจ.ขายก็ลดลง ส่งผลให้มี  %NP ใกล้เคียงระดับเดิม

ความเห็น แผนเน้นเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้คาดกำไรครึงปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 3,800 ล้านบาท +10% IAA Consensus คาด yield 7.1% เหมาะลงทุนระยะยาวรับเงินปันผล มูลค่าเงินลงทุนมี NAV เท่ากับ 4.64 บาท 

·      AOT (ราคาปิด 68.25 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 71.78) ปิดงบไตรมาส 2/62 โชว์กำไรสุทธิ 7,646.50 ล้านบาท โต 5.18% เหตุผู้โดยสารกระฉูดไม่หยุด ล่าสุดทำสถิติ 74.32 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.67% ส่วนเที่ยวบินโต 5.31% รวมงวดครึ่งปีแรกฟันกำไรสุทธิ 14,022.13 ล้านบาท โตเกือบ 4% (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·       GULF แจ้งไตรมาส 1/62 มีกำไรสุทธิ 1,292.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.60% จากไตรมาสก่อน พร้อมอวดรายได้จากการขายและบริการพุ่ง 90.80% แตะ 6,554 ล้านบาท ฟาก GUNKUL โชว์ผลงานไตรมาส 1/62 พลิกมีกำไร 224.89 ล้านบาท(ที่มา : ข่าวหุ้น)

·       BDMS ผลงาน Q1/2562 ทะยาน 189% กำไรสุทธิแตะ 8.4 พันล้านบาท ตามนัด หลังรับกำไรขายเงินลงทุน RAM 6 พันล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)

·      PTTEP เตรียมขยับเป้ากำลังผลิตปีนี้เพิ่มเป็น 3.4 แสนบาร์เรลต่อวัน หลังเตรียมบุ๊กโครงการเมอร์ฟี่ ออยล์เข้ามาอีกกว่า 2 หมื่นบาร์เรลต่อวันตั้งแต่มิ.ย.นี้ ขณะที่ PTT แจ้งงบไตรมาส 1/62 กำไรสุทธิ 29,312 ล้านบาท ลดลง 26.3% หลังสเปรดน้ำมันสำเร็จรูป-น้ำมันดิบลดลง ฉุดธุรกิจกลุ่มปิโตรเคมี-โรงกลั่น แต่เทียบไตรมาส 4/61 กำไรสุทธิพุ่ง 50% (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·      FPI ปลื้มไตรมาส 1/62 โชว์กำไรสุทธิ 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่รายได้รวม 485 ล้านบาท อานิสงส์ตลาดต่างประเทศฟื้น คาดแนวโน้มไตรมาส 2/62 สดใส ลุ้นคว้างานใหม่จากโตโยต้าราว 200 ล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)

  • AU ราคาปิด 9.00 บาท “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ราคาเหมาะสม 8.50 บาท

รายงานกำไรงวด 1Q62 เท่ากับ 59.7 ลบ. (สูงกว่าที่คาด 18.7% และคิดเป็น 33% ของประมาณการทั้งปี) +91.4%YoY โดยมีรายได้เท่ากับ 286.8 ลบ. +44%YoY โดยมีจำนวนสาขา ณ สิ้นงวด เท่ากับ 35 สาขา จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 28 สาขา ประกอบกับมีรายได้จากการรับจ้างผลิต (OEM) เท่ากับ 16.3 ลบ. จาก 1Q61 ที่มีรายได้ในส่วนนี้เพียงแค่ 2.6 แสนบาท ขณะที่ %GPM ปรับตัวลงเล็กน้อยมาที่ระดับ 66% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 67.6% เนื่องจากสินค้ากลุ่ม OEM มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่า ส่วน %SG&A ทำได้ดีขึ้นมาที่ระดับ 43% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 49% จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม การส่งสินค้าแบบ Delivery ทำให้ใช้อุปกรณ์และสถานที่น้อยลง ส่งผลให้มี %NPM เท่ากับ 19.4% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 15.5% (เตรียมปรับประมาณการเชิงบวก)

  • JAS รอรับทรัพย์กว่า 3,797 ล้านบาท หลังอนุญาโตฯชี้ขาดให้คู่กรณีข้อพิพาทกรณีส่วนแบ่งรายได้สัญญาร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำจ่ายเงินพร้อมดอกเบี้ยให้บริษัทย่อย (JSTC) ฟาก TRUE โชว์ไตรมาส 1/62 พลิกมีกำไรสุทธิ 1,508 ล้านบาท จากขาดทุน 673 ล้านบาท ส่วน DTAC ไม่ชัดรับจัดสรรคลื่น 700 รอกสทช.ประกาศหลักเกณฑ์วันนี้ (ที่มา : ข่าวหุ้น)
  • PTT (ราคาปิด 47.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 55.25) ประกาศงบไตรมาสแรก มีกำไรสุทธิ 93 หมื่นล้านบาท เติบโต 50% เทียบกับไตรมาส 4/2561 ส่วนหนึ่งมาจากกำไรสต๊อกน้ำมันตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น แต่หากเทียบกับไตรมาส 1/2561 ลดลง 26.32% (ที่มา : ทันหุ้น)
  • TRUE โชว์ฟอร์มธุรกิจดันผลงาน Q1/2562 พลิกมีกำไร 1.5 พันล้านบาท จากการเพิ่มมูลค่าของ DIF หนุน อีกทั้งจำนวนลูกค้ามือถือเพิ่มขึ้นเป็น 29.6 ล้านราย ส่วนบริการบรอดแบนด์รายใหม่เพิ่มอีก 5.5 หมื่นราย ลุยเดินหน้าขยายฐานต่อยอด (ที่มา : ทันหุ้น)