ยังกังวลสงครามการค้า

ยังกังวลสงครามการค้า

SET Index เมื่อวานนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคโดยมีปัจจัยลบกดดันจากประเด็นสงครามการค้ารอบใหม่

หลังปธน.สหรัฐ ขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% โดยหุ้นกลุ่ม Big Cap ที่กดดันตลาดได้แก่ ได้แก่ PTT CPALL AOT ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,669.68 จุด (-9.37 จุด) Volume 5.1 หมื่นลบ. จาก Foreign -635.35 ลบ. TFEX Net -11,041 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -357 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+สหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน +346,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.5 ล้านตำแหน่งในเดือนมี.ค. ส่วนตัวเลขการจ้างงานทรงตัวที่ระดับ 5.7 ล้านตำแหน่ง

+ รายงานประชุมกรรมการ BOJ เห็นพ้องดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป

+การเมืองคืบหน้าหลังกกต.ประกาศรับรองการเลือกตั้ง 349 เขต ยกเว้นเขต 8 เชียงใหม่ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 95% ของส.ส.ทั้งหมด หากมีประกาศรับรองส.ส.บัญชีรายชื่อ จะทำให้เรียกประชุมรัฐสภาเตรียมจัดตั้งรัฐบาลและเสนอชื่อนายกฯได้

-  ดัชนี DJIA ลดลง 473.39 จุด -1.79% กังวลความขัดแย้งทางการค้าสหรัฐ-จีน หลังปธน.โดนัลด์ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้าจีน 25% จากเดิม 10%ในวันศุกร์นี้ ขณะที่ประธานเฟดดัลลัสเชื่อมั่นสหรัฐ-จีนสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้

- ราคาน้ำมัน WTI ลดลง 85 เซนต์ -1.4% ปิดที่ 61.40 ดอลลาร์/บาร์เรลกังวลสงครามการค้ากระทบความต้องการใช้น้ำมัน

-ตุรกีประกาศจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 23 มิ.ย. ท่ามกลางความกังวลแทรกแซงทางการเมือง ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดน้อยลง และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูงขึ้น และความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นกับทางสหรัฐ

-FETCO ระบุดัชนีเชื่อมั่นนลท.3 เดือนข้างหน้าลดลง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์"ทรงตัว" กังวลเสถียรภาพรัฐบาลใหม่-เจรจาการค้าฯ

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -1.23 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 31.92 บาท/US

*จับตาวันนี้ 1) กกต.ประกาศรับรองส.ส.บัญชีรายชื่อ 2) ศาลรธน.ลงมติวินิจฉัยสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ 3) การประชุมกกร.3สถาบัน 4) การประชุมกนง.

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในแดนลบต่อเนื่องจากวานนี้จากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน และราคาน้ำมันปรับลดลง  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,676 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ : SE-ED COL LPN PSH SPALI QH ROBINS BJC CENTEL ERW
  • หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุนในดัชนี MSCI แต่ยัง Laggard (ราคาปรับขึ้นต่ำกว่า 5%YTD) : BH TRUE IRPC PTTGC BDMS CPN
  • หุ้นได้ประโยชน์จากฤดูร้อน : เครื่องปรับอากาศ (SNC KOOL) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (EA BCPG SSP GUNKUL) เครื่องดื่ม(TACC SAPPE ICHI  OISHI  OSP  CBG

หุ้นรายงานพิเศษ

หุ้นเริ่มซื้อขายวันแรก

ALL – (mai หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์) จำนวนหุ้น IPO 150 ล้านหุ้น ราคา IPO 4.90 บ./หุ้น คิดเป็นอัตราส่วน P/E ที่ประมาณ 8.03 เท่า

          บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ The Excel, RISE และ Impression รวม 16 โครงการ และประเภททาวน์โฮมภายใต้แบรนด์ The Vision จำนวน 1 โครงการ ในงวดปี 61 มีรายได้หลักรวมเท่ากับ 2,182.4 ลบ. +213.7%YoY เติบโตตามจำนวนการโอนห้องชุด โดยแบ่งเป็นสัดส่วนดังนี้ 1) รายได้จากอสังหาริมทรัพย์ เท่ากับ 1,978 ลบ. คิดเป็นสัดส่วน 90.6% 2) ค่านายหน้า เท่ากับ 204 ลบ. คิดเป็นสัดส่วน 9.4% และ 3)  นิติบุคคลอาคารชุด เท่ากับ 0.4 ลบ. คิดเป็นสัดส่วน 0.02% ด้าน %GPM เท่ากับ 38%, %SG&A เท่ากับ 23% ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 61 เท่ากับ 343.4 ลบ. +325%YoY

          แผนการเติบโตปี 62 : เปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ แบ่งเป็น 1) High Rise 3 โครงการ และ 2) Low Rise 3 โครงการ มูลค่ารวม 1.8 หมื่นลบ. พร้อมกับมี Backlog ณ ปลายปี 61 ราว 6,354 ลบ. คาดว่าจะรับรู้ราว 70% ในปีนี้ นอกจากนี้ ประเด็น LTV เชื่อว่ากระทบน้อย เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 61 และโดยปกติมีการวางเงินดาวน์ในสัดส่วนที่สูงอยู่แล้วราว 15%

หุ้นมีข่าว   

·         ประเด็นบวกหุ้นปาล์มน้ำมัน : ที่ประชุมครม.เห็นชอบมาตรการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มดิบตกต่ำ ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันเสนอ โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงสะกัดเพิ่มเติมอีก 2 แสนตันในราคานำตลาดที่ขณะนี้มีราคา กก.ละ 16 บาท

·         กสทช.แจงสูตรจ่ายเงินชดเชยคืนช่องทีวีดิจิทัลสูงสุดไม่เกินพันล้านบาท ช่องแฟมมิลี่ได้คืน 400 ล้านบาท ช่อง SD เฉลี่ย 800-900 ล้านบาท ย้ำต้องยื่นรับสิทธิภายใน 10 พฤษภาคมเท่านั้น มดึงเงินกองทุน กทปส. มาจ่ายให้ก่อนไม่ต้องรอเงินประมูลคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์  (ที่มา : ทันหุ้น)

·         TRUE นำร่องยื่นใช้สิทธิขยายจ่ายค่าคลื่น 900 MHz จาก 4 ปี เป็น 10 ปี กสทช.มั่นใจอีก 2 รายมายื่นใช้สิทธิ์แน่นอน เคาะวันจัดสรรคลื่นความถี่ 700 MHz วันที่ 19 มิ.ย. 62 ราคาไม่เกิน 27,000 ล้านบาท/15 MHz ส่วนทีวีดิจิทัลขีดเส้นใช้สิทธิ์ 10 พ.ค.นี้ ฟาก “ฉาย” ลั่นไม่คืนช่อง Nation TV (ช่อง 22) (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         + BA ผนึก “ลอตเต้” ชิงงานดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานภูมิภาค ท้าชน “คิง เพาเวอร์” AOT ยิ้มร่ารับทรัพย์ ประมูลเดือด! บิ๊กบอส BA มั่นใจแม้เป็นผู้เล่นหน้าใหม่แต่แข็งแรง พร้อมเข้าแข่งโครงการพัฒนาอู่ตะเภาฯ 2.9 แสนล้านบาท โว!เสนอผลตอบแทนให้รัฐได้เริ่ดสุดแน่นอน (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         - IVL (ราคาปิด 47.25 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 61.50)  ประกาศไตรมาส 1/2562 มีกำไรสุทธิ 3,708 ล้านบาท ลดลง 36% หลังธุรกิจ Olefins ขยายเวลาปิดชั่วคราว และธุรกิจ Specialty Chemicals กำไรร่วงแรง ขณะที่ไตรมาส 1/2562 มีรายได้รวม 96,130 ล้านบาท เติบโต 25% (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         CPN-CK-BEM ซื้อซอง เอกสารบางซื่อแปลง A มูลค่า 1.17 หมื่นล้านบาท ยื่นข้อเสนอ 30 ก.ค.นี้ ผู้ว่า ร.ฟ.ท. ยอมรับมาน้อยกว่าคาด แต่จะไม่ขยายเวลาขายเอกสาร พร้อมเดินหน้าต่อตามแผนเดิม กำหนดยื่นข้อเสนอวันที่ 30 ก.ค.นี้(ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         JAS (ราคาปิด 5.45 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 7.15)แจ้งงบไตรมาส 1/62 มีกำไรสุทธิ 599 ล้านบาท ลดลง 26.25% จากไตรมาส 1/61 แต่กำไรดำเนินงานเพิ่มขึ้น 25% แตะ 706 ล้านบาท โชว์รายได้พุ่ง 4,588 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จาก 3BB โดยสิ้นไตรมาส 1/62 ลูกค้า 3BB พุ่ง 3.01 ล้านราย (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         COMAN ประกาศจับมือพาร์ตเนอร์ ตั้งบริษัทร่วมทุน "รูมซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด" รุกให้บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารจัดการโรงแรม หวังต่อยอดธุรกิจ หลังมีฐานลูกค้ากว่า 920 ราย จับตากลางปีหน้ามีกำไรชัวร์ ด้านผู้บริหารคอนเฟิร์มปีนี้รายได้โตตามเป้า 20% (ที่มา : ทันหุ้น)

·         TPOLY คว้างานใหม่ 6 โครงการ มูลค่ารวม 2,104 ล้านบาท ดัน Backlog พุ่งทำนิวไฮทะลุ 8,000 ล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ประมาณ 4,000 ล้านบาท หนุนรายได้โต 10% ตามเป้า ขณะที่มีลุ้นรับงานใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ภายในเดือนมิ.ย.นี้ และอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานอีกกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)

·         - MONO (ราคาปิด 1.74 บาท) รายงานกำไร 1Q62 พลิกขาดทุน 112 ลบ. จาก 1Q61 มีกำไร 19 ลบ. มีสาเหตุจาก 1) ช่วง 1Q62 มีรายได้รวมเท่ากับ 570 ลบ. -10%YoY จากรายได้บริการเสริมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลง 2) %GPM เท่ากับ 14.5% ลดลงจาก 1Q61 ซึ่งอยู่ที่ 28% และ 3) %SG&A ปรับเพิ่มสู่ 30% จาก 1Q61 อยู่ที่ 21% ส่งผลให้ EBITDA ขาดทุนเท่ากับ 83 ลบ. จาก 1Q61 ที่มีกำไร 48 ลบ.