‘ไอเอ็มเอฟ’ เตือนคำขู่ใหม่ ‘ทรัมป์’บั่นทอนศก.โลก

นางคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในการประชุมที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส วานนี้ (7 พ.ค.) ว่า เป็นที่ชัดเจนว่าความตึงเครียดทางการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐกับจีนเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลก และว่า กระแสข่าวลือและการทวีตข้อความต่าง ๆ ทำให้ข้อตกลงระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่มีโอกาสประสบความสำเร็จน้อยลง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ สร้างความแตกตื่นให้กับตลาดทั่วโลก หลังขู่ผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันจันทร์ (6 พ.ค.) ว่า จะปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าที่เรียกเก็บจากสินค้าส่งออกของจีนมาสหรัฐมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 25% ในวันศุกร์นี้ (10 พ.ค.) จาก 10% ในปัจจุบัน

เมื่อเดือนที่แล้ว ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกว่า จะขยายตัวอยู่ที่3.3% ในปีนี้ จากเดิมที่ประเมินว่าจะเติบโต3.5% เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนทิศทางของการค้าโลก ไอเอ็มเอฟประเมินว่าจะขยายตัวเพียง3.4% ในปีนี้ ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่4% เมื่อเดือนม.ค.

ไอเอ็มเอฟ มองว่า ปัจจัยสำคัญต่อเศรษฐกิจและการค้าโลก คือ ความเสี่ยงจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐกับจีน การแยกตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ หรือ เบร็กซิท ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง

ด้านนายบรูโน เลอแมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศส กล่าวระหว่างเดินทางเข้าร่วมการประชุมที่กระทรวงการคลังในกรุงปารีสวานนี้ว่า สหรัฐและจีนจะต้องหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการค้าไม่ให้รุนแรงขึ้นในการเจรจาการค้ารอบปัจจุบันเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกต่อไป

นายเลอแมร์เสริมว่า ฝรั่งเศสต้องการให้การเจรจายึดมั่นอยู่บนหลักความโปร่งใสและหลักพหุภาคี และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้