'12รัฐมนตรี' ไขก๊อก จ่อนั่งส.ว.

วานนี้ (6 พ.ค.) เวลา 10.00 น. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประชุมอย่างต่อเนื่องเพื่อพิจารณาสำนวนคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ยังไม่แล้วเสร็จ และเพื่อให้ทันต่อการประกาศผลการเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 หรือ 333 เขต ทั้งนี้หลังการประชุมเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 12.00 น. โดยไม่มีการแถลงหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ และมีรายงานว่า ในวันนี้ (7 พ.ค.) กกต.จะยังประชุมต่อ โดยเริ่มเวลา 10.30 น. เพื่อตรวจทานความเรียบร้อยของข้อมูลเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นช่วงบ่ายจะแถลงข่าวประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต อย่างเป็นทางการร้อยละ 95 ซึ่ง กกต.จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการเลือกตั้งของแต่ละเขต ที่ได้รับการรับรอง
ทั้งนี้ต้องจับตาว่า ที่ประชุม กกต.จะแจกใบส้ม ให้กับผู้สมัคร ส.ส.คนใดเพื่อเติมหรือไม่ หรือการสั่งไม่ให้เป็นผู้สมัครในเขตเลือกตั้งนั้น(แขวน) หลังจากที่ กกต.จังหวัดทยอยส่งคำร้องมาที่ กกต. ส่วนกลาง เพื่อขอให้พิจารณาระงับสิทธิผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยจะส่งผลให้คะแนนของผู้สมัครดังกล่าว จะไม่ถูกนำมาคิดคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ

โดยก่อนหน้านี้มีผู้สมัคร ส.ส.ที่ได้ใบส้มแล้ว 1 คน คือนายสุรพล เกียรติไชยกร ว่าที่ ส.ส.เขต 8 พรรคเพื่อไทย จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่มีผู้สมัคร ส.ส.อีก 17 คนของหลายพรรคการเมืองที่ กกต.สั่งไม่ให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ด้วย

มีรายงานข่าวว่าที่ประชุม กกต.จะเป็นการพิจารณาสำนวนทั่วไป โดยไม่ได้หยิบยกคำร้อง ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ถูกร้องขาดคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กรณีถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อ เข้าหารือในที่ประชุม สำหรับคำร้องคัดค้านการรับรองผล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มีแนวโน้มว่า กกต.จะประกาศรับรองผลไปก่อน รวมถึงกรณีนายธนาธร ที่ถูกร้องคัดค้านการรับรองผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ก็จะรับรองผลด้วยเช่นกัน
ศาลรธน.พิจารณาบันทึกประชุมกรธ.เคลียร์ปาร์ตี้ลิสต์

ขณะเดียวมีรายงานว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดให้เลขาธิการวุฒิสภา จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมของคณะกรรมาธิการวิสามัญของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)​ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ( พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 128 และเอกสารที่เกี่ยวข้องมายื่นต่อศาล ส่วนเลขาฯสภาผู้แทนราษฎร ให้จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)​ ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 มาให้ศาลในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ศาลพิจารณาลงมติในวันที่ 8 พ.ค.ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 128 ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 หรือไม่

เรืองไกรวอนกกต.รอศาลรธน.

ด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินว่า คำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญน่าจะออกมาในลักษณะ 2 ลักษณะ คือขัดหรือแย้งต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญทั้งมาตรา หรือขัดเฉพาะอนุมาตราเท่านั้น และส่วนใดไม่ขัดหรือแย้งก็บังคับใช้ต่อไป ซึ่งกกต.มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาล และควรรอศาลวินิจฉัยออกมาก่อนถึงค่อยประกาศรับรอง ส.ส. เนื่องจากยังมีเวลาจนถึงวันที่ 9 พ.ค.2562 ถึงครบกำหนด 150 วัน
“หาก กกต.ยืนยันที่จะชิงประกาศรับรอง ส.ส. ก่อนในวันที่ 7 พ.ค.ตามที่มีกระแสข่าวออกก่อนหน้านี้ จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน รวมทั้งจะทำให้เกิดเดดล็อกทางการเมือง และจะมีผลกระทบต่อการประกาศรายชื่อ ส.ว.ด้วย ดังนั้น จึงขอให้ กกต. คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนร่วม และอย่าดันทุรัง พยายามทำให้ประเทศเกิดทางตันทั้งที่มีทางออก พร้อมทั้งฝากความหวังไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยหวังว่าศาลจะมีอภินิหารทางกฎหมาย เพื่อให้เกิดข้อยุติได้ และเพื่อให้ประเทศมีทางออก”

ประชุมครม.เต็มคณะครั้งสุดท้าย

ส่วนความคืบหน้าการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีรายงานว่ารัฐมนตรีที่จะไปเป็นส.ว.หลายคน อาทิ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และรมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รมช.ต่างประเทศ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ​ รวมทั้งหมด 12 คน ทั้งนี้กรณีนายดอน​ จะอยู่ปฏิบัติภารกิจต่อไปก่อน เนื่องจากยังมีภารกิจสำคัญ คือ การประชุมสุดยอดอาเซียน ระหว่างวันที่ 22 – 23 มิ.ย.นี้ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และประธานอาเซียน​ ซึ่งทางฝ่ายกฎหมายมีวิธีที่จะทำให้ไม่ขาดคุณสมบัติ

นอกจากนี้​ ยังมีรายงานว่า​ มีการวางตัวนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคนสนิทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ลาออกจากการเป็นคณะกรรมการกฤษฎีกาเอาไว้ให้เป็นประธานวุฒิสภา ขณะเดียวกัน ยังจะมีกรรมการกฤษฎีกาบางคน​ แต่ไม่ถึง​ 10​ คน​ ลาออกจากตำแหน่งมาเป็น​ ส.ว. เนื่องจากไม่สามารถควบทั้งสองตำแหน่งได้ เพราะมีการตีความกันว่าเข้าข่ายมีส่วนได้ส่วนเสียในการพิจารณากฎหมาย

มีรายงานอีกว่า การประชุม ครม.ในวันที่ 7 พ.ค.นี้ จะเป็นการประชุม ครม.แบบเต็มคณะครั้งสุดท้าย เนื่องจากมีรัฐมนตรีหลายคนลาออกไปเป็น ส.ว.​ จึงต้องเคลียร์ตัวเองให้เสร็จก่อนที่จะมีการนำรายชื่อ​ ส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯภายในวันที่​ 10​ พ.ค.

วิปสนช.ส่งสัญญาณลาออกก่อนนั่งส.ว.

นายสมชาย แสวงการ เลขานุการกรรมาธิการวิสามัญกิจการสนช. กล่าวว่า คาดว่าในวันที่ 7 พ.ค. สนช.จะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย ก่อนที่กกต.เตรียมประกาศรับรองความเป็น ส.ส. ซึ่งตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ สนช.อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าวันเปิดประชุมรัฐสภานัดแรก

ส่วนสนช.ที่จะรับตำแหน่ง ส.ว. นั้น รัฐธรรมนูญกำหนดให้พ้นวาระก่อน 1 วันที่จะมีการเปิดประชุมสภานัดแรก หรือรัฐพิธีเปิดประชุมสภา แต่ส่วนตัวมองว่า เพื่อความปลอดภัย และไม่ให้การไปดำรงตำแหน่งอื่นของ สนช.มีปัญหาก็สามารถลาออกจากตำแหน่งเก่าได้ก่อนเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของสมาชิก โดยไม่ทราบว่าจะมีใครยื่นใบลาออก หรือมีชื่อใครถูกเลือกให้เป็น ส.ว.บ้าง

จ่อออกม.44ลบล้างคำสั่งคสช.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 7 พ.ค. จะมีประชุมร่วมระหว่างครม.และคสช. ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้ปรารภว่าไม่ได้ประชุมร่วมกันเป็นทางการมานานแล้ว และจะได้มีการพิจารณาถึงการออกมาตรา 44 เพื่อลบล้างคำสั่งและประกาศคสช.ที่ไม่จำเป็นตั้งแต่ปี 2557

ซึ่งในการประชุมคสช. เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมาได้พิจารณาเรื่องนี้ไปแล้ว แต่พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี อยากให้ยกเลิกคำสังคสช.เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมายหรือไอยูยู เพราะเดิมทีไม่คิดจะยกเลิก แต่พล.อ.ฉัตรชัย เสนอขอให้ยกเลิกคำสั่ง โดยขอให้มีเงื่อนไขเล็กน้อย จึงต้องไปแก้ไขคำสั่งมาตรา 44 ที่จะออกมาลบล้างใหม่

“เฉลิมชัย”รับนั่งเลขาฯปชป.ทีมจุรินทร์

สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีที่เตรียมเสนอชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรค ให้กลับมาเป็นเลขาธิการพรรค หากได้รับการเลือกเป็นหัวหน้าพรรคว่า ตนได้หารือกับนายเฉลิมชัยมาระยะหนึ่ง และพบว่ามีมุมมองต่อปัญหาและแนวทางพัฒนาพรรคไปในทิศทางเดียวกัน

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนตัดสินใจเข้าร่วมทีมของนายจุรินทร์ และมองว่าตอนนี้ไม่มีกลุ่ม ไม่มีพวก มีแต่พรรค ที่ต้องร่วมสร้างให้แข็งแรง และคนในบ้านมีความสามัคคี ส่วนเหตุการณ์ที่ผ่านมา​ขอให้นำมาเป็นบทเรียน อย่าซ้ำรอยเดิม ตนเชื่อว่าการแข่งขันชิงหัวหน้าปชป. เมื่อเกิดขึ้นแล้วและจบแล้ว ทุกฝ่ายต้องยอมรับ ถ้าเราลดทิฐิและจับมือร่วมกันก็เชื่อว่าเราจะเรียกฟื้นคืนศรัทธากลับมาได้