เฉลิมพระนามาภิไธยใหม่ สมเด็จพระเทพฯ

เฉลิมพระนามาภิไธยใหม่ สมเด็จพระเทพฯ

ในหลวง มีพระบรมราชโองการเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี"

​เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 พ.ค.2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จฯ จากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานไปยัง พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทางพระทวารเทวราชมเหศวร ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562


​ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ราชประเพณีซึ่งมีสืบมาแต่โบราณ เมื่อสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกแล้วย่อมโปรดให้สถาปนาพระเกียรติยศพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงพระราชดำริว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยะชาติ สยามบรมราชกุมารี เป็นพระโสธรขนิษฐภคินี ที่ได้ทรงร่วมสุขร่วมทุกข์มาแต่ทรงพระเยาว์ เมื่อทรงเจริญพระชนมายุก็ได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระบรมราชชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เป็นคุณูปการแก่ประเทศชาติ และอาณาประชาราษฎร์อย่างใหญ่หลวง เป็นอเนกประการ


​ครั้นในรัชกาลปัจจุบันก็ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในหลายวาระ และช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจน้อยใหญ่ที่สืบเนื่องมาแต่ครั้งรัชสมัยพระบรมราชชนกนาถ ให้ดำเนินล่วงไปด้วยความเรียบร้อย เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย สมควรจะยกย่อง พระเกียรติยศตามฐานะแห่งพระบรมราชวงศ์ จึงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธย "สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจจการินี พิรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี" ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า "สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจจการินี พิรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี" และพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1 ขอจงเจริญพระชนมายุ พรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ คุณสารสมบัติ สรรพสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลวิบุลศุภผล ธนสารสมบูรณ์ วรเกียรติคุณอดุลยยศ ปรากฏยิ่งยืนนานตลอดจิรัฏฐิติกาล เทอญ ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน


​สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจจการินี พิรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เข้าเฝ้าฯ หน้าพระราชอาสน์ พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม ทรงเจิม พระราชทานพระสุพรรณบัฏและเหรียญรัตนาภรณ์ ร.10 ชั้นที่ 1 พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์


​พระราชประวัติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


​พระราชสมภพ เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2498 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ได้รับพระราชทานพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ ด้วยเหตุที่ทรงบำเพ็ญพระราชกิจจานุกิจนานัปการอันเป็นประโยชน์แก่แผ่นดิน และราษฎร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สถาปนาพระราชอิสริยยศและพระราชอิสริยศักดิ์เป็น "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี" ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2520 และจากพระวิริยะอุตสาหะในการทรงศึกษาหาความรู้และบำเพ็ญพระราชกิจนานัปการ พระเกียรติคุณ เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้ง ทั้งในราชอาณาจักร และนานาชาติ จึงทรงรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ แห่งราชอาณาจักรไทยและทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศได้แก่พระราชพิธีสถาปนาพระราชอิสริยศักดิ์ เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ