น่าตกใจ! อุบัติการณ์ 'โรคซิฟิลิสระบาด' พบมากในกลุ่มวัยรุ่น 15-24 ปี

พญ.รสพร กิตติเยาวมาลย์ หัวหน้ากลุ่มบางรักโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์ ทำให้ผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ลดลง แต่ในระยะ 5 ปีหลังจากนั้น (พ.ศ.2557- พ.ศ. 2561) กลับมีรายงานผู้ป่วยซิฟิลิสสูงขึ้น ทั้งนี้ มีปัจจัยมาจากการขาดความตระหนักในเรื่องการใส่ถุงยางอนามัย รวมถึงพฤติกรรมทางเพศที่เปลี่ยนไป มีการร่วมเพศทางปาก และทวารหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราการติดต่อกลับเพิ่มสูงขึ้น

จากข้อมูล เฟซบุ๊คแฟนเพจ Bangrak STIs Center (โรงพยาบาลบางรัก) เรียบเรียงโดย พญ.ธันยนันท์ กังวาฬพรโรจน์ กลุ่มบางรัก โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ระบุว่า ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง เกิดจากการสัมผัสเชื้อโดยตรง เช่น การมีเพศสัมพันธ์ การได้รับเลือด หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยซิฟิลิส เมื่อ 100 ปีที่ผ่านมา ซิฟิลิสเป็นโรคที่ทุกคนหวาดกลัว เนื่องจากติดต่อโดยเพศสัมพันธ์ ตัวโรคอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ไม่มียารักษาเช่นในปัจจุบัน

ซิฟิลิสพบมากในกลุ่มวัยรุ่น 15-24 ปี

ปัจจุบัน ในประเทศไทยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง โดยกราฟของซิฟิลิสพุ่งสูง มีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมากแต่ไม่รู้ตัวว่าติดเนื่องจากไม่เคยตรวจโรคนี้ โดยในปี 2559 อัตราผู้ป่วยซิฟิลิสอยู่ที่ 6.22 ต่อแสนประชากร ปี 2560 อยู่ที่ 8.17 ต่อแสนประชากร และ ในปี 2561 อยู่ที่ 11.91 ต่อแสนประชากร

ทั้งนี้ หากดูกราฟจะพบว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พบมากที่สุดในกลุ่มของวัยรุ่นประมาณมัธยมถึงมหาลัย ช่วงอายุระหว่าง 15 -24 ปี แต่อย่างไรก็ตามซิฟิลิสก็พบได้ในทุกเพศทุกวัยแม้แต่เด็กแรกเกิดที่เกิดจากแม่ที่ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นซิฟิลิส

พญ.รสพร กล่าวเพิ่มเติมว่า “เคยมีการสำรวจนักเรียนระดับปวช. และมัธยมศึกษา เรื่องการใส่ถุงยางอนามัยและการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า อัตราการใช้ถุงยาอนามัยงดีขึ้น แต่ไม่ 100% เนื่องจากนักเรียนไม่กล้าซื้อถุงยางอนามัย เกิดความเขินอาย รวมถึงขาดความตระหนัก นอกจากนี้ ยังเกิดจากความไว้ใจโดยคิดว่ามีเพศสัมพันธ์กับแฟนตัวเองแล้วจะไม่ติดโรค”

“ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค และทุกโรงพยาบาล พยายามรณรงค์ให้ประชาชน ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทุกๆ 1 ปี จากเดิมที่เน้นเพียงโรคเอดส์ แต่ปัจจุบัน ต้องเพิ่มโรคซิฟิลิสเข้าไปด้วย และพยายามเน้นย้ำให้ประชาชนตระหนักว่า “ไม่ใช่แค่เสี่ยง แต่เมื่อไม่ป้องกัน” ไม่สวมถุงยาง ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์กับใครก็ตาม ต้องตรวจทันที ซึ่งสามารถใช้บัตร 30 บาทรักษาทุกโรคได้” พญ.รสพร กล่าว

อาการของผู้ป่วยซิฟิลิส

สำหรับ อาการของซิฟิลิส หลังจากติดเชื้อ ผู้ป่วยจะมีแผลริมแข็ง ไม่เจ็บ ขึ้นที่อวัยวะเพศ หลังจากนั้นแผลสามารถหายได้เอง ผ่านไปสักพักจะกลายเป็น ระยะที่ 2 คือ มีผื่นขึ้นตามฝ่ามือฝ่าเท้า บางคนขึ้นตามตัว ผมร่วงเป็นหย่อมๆ และแผลที่อวัยวะเพศเรียกว่า condyloma lata บางคนอาจจะไม่มีอาการอะไรเลย บางคนมีแค่บางอาการ แล้วก็หายไปในที่สุด หลังจากนั้นเชื้อจะยังอยู่ในร่างกายเราไปเรื่อยๆ จนถึง ระยะที่ 3 ที่กินเวลาไปเป็น 10 ปี กลายสภาพเหมือนลำยองในทองเนื้อเก้า ทั้งนี้ เชื้อยังส่งผลให้เป็นซิฟิลิสที่หลอดเลือดหัวใจ ในสมอง กินเข้ากระดูกได้

ซิฟิลิส รักษาได้

สำหรับโรคซิฟิลิสสามารถรักษาให้หายได้ โดยรักษาได้ง่ายในระยะแรก ด้วยยาฆ่าเชื้อเป็นยาเพนนิซิลินฉีดเข้ากล้ามเนื้อครั้งเดียว สําหรับผู้เป็นโรคภายในระยะเวลา 1 ปีหากเป็นมานานเกิน 1 ปีจะต้องฉีดยาเพิ่มมากกว่า 1 ครั้ง ผู้แพ้ยาจะใช้ยาตัวอื่น การรักษาจะป้องกันการทําลายอวัยวะในร่างกาย แต่ไม่สามารถรักษาอวัยวะที่ถูกทําลายไปแล้ว

ผู้ที่ได้รับการรักษาจะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายไป ผู้ที่ติดเชื้อควรต้องแจ้งแก่คู่นอนให้ทราบเพื่อจะได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาด้วย จะกลับมาเปนซ้ำอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากเคยเป็นโรคนี้แล้ว สามารถติดซ้ำได้ และในบางรายโรคอาจจะซ่อนอยู่ในช่องคลอด ทวารหนัก ดังนั้น จึงควรป้องกัน และตรวจโรคทุก 1 ปี

ที่มาภาพ : เฟซบุ๊คแฟนเพจ Bangrak STIs Center (โรงพยาบาลบางรัก)