พักฐาน

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังคงได้แรงหนุนต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐช่วยหนุนกลุ่มอสังหาฯ ค้าปลีก ท่องเที่ยว และโรงไฟฟ้า ด้านหุ้นรายตัวที่ขับเคลื่อนตลาด ได้แก่ CPF PTT EA BJC และ GULF ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,679.17 จุด (+5.65 จุด) Volume 4.7 หมื่นลบ. จาก Foreign -340.41 ลบ. TFEX Net +3,219 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -958 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+สหรัฐรายงานคำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค. +1.9%MoM +1.7%YoY มากกว่าคาดที่ +1.5% จากคำสั่งซื้อเครื่องบินและรถยนต์เพิ่มขึ้น

+ธนาคารกลางอังกฤษมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.75% ตามคาด

+ศาลรธน.มีมติรับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินให้วินิจฉัยสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อที่ไม่ขัดรธน.นัดลงมติ 8 พ.ค. ส่วนกกต.จะประกาศผลส.ส.ระบบเขต 7 พ.ค.และส.ส.บัญชีรายชื่อ 8 พ.ค.

-ราคาน้ำมัน WTI -$1.79 ดอลลาร์ ปิด $61.81 ต่อบาร์เรล หลังมีรายงานคลังน้ำมันดิบสำรองเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เข้าสู่ปี 2019

-ดาวโจนส์ -122.35 จุด -0.46% ผิดหวังเฟดส่งสัญญาณยังไม่ลดดอกเบี้ย และราคาน้ำมันดิ่งฉุดหุ้นพลังงาน

-สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงาน 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้วทรงตัวที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน

-ยูโรโซนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตในเม.ย.หดตัวเป็นเดือนที่ 3 สู่ 47.9 แสดงถึงภาวะหดตัว

- สภาผู้ส่งออกปรับลดคาดการณ์ส่งออกไทยปี 62 เหลือโต 3% จากเดิม 5% หลังจากการส่งออก Q1/62 หดตัว 1.6%

-  ม.หอการค้าฯเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเม.ย.ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 กังวลศก.-เสถียรภาพการเมือง

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -1 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 32 บาท/US

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสพักฐานในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ผิดหวัง FED ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และราคาน้ำมันที่ร่วงลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,671-1,685 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

- หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ : SE-ED COL LPN PSH SPALI QH ROBINS BJC CENTEL ERW

- หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุนในดัชนี MSCI แต่ยัง Laggard (ราคาปรับขึ้นต่ำกว่า 5%YTD) : BH TRUE IRPC PTTGC BDMS CPN HMRPO SCC

- หุ้นได้ประโยชน์จากฤดูร้อน : เครื่องปรับอากาศ (SNC KOOL) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (EA BCPG SSP GUNKUL) เครื่องดื่ม(TACC SAPPE ICHI  OISHI  OSP  CBG

หุ้นรายงานพิเศษ

หุ้นเริ่มซื้อขายวันแรก : VRANDA (ราคา IPO 10 บาท)

SET /บริการ – การท่องเที่ยวและสันทนาการ

บมจ. วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA) ประกอบธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ ได้แก่ (1) ธุรกิจโรงแรม (2) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ(3) ธุรกิจร้านอาหาร ในปี 61 โครงสร้างรายได้ของแต่ละธุรกิจเท่ากับ 54% 43% และ 1% ตามลำดับ สำหรับผลประกอบการปี 61 บริษัทมีรายได้รวม 2,431 ลบ. เติบโต 40%YoY แม้รายได้ธุรกิจโรงแรมทรงตัว (อัตราเข้าพักเฉลี่ยในปี 61 เท่ากับ 70% ดีขึ้นจาก 68% ในปี 60) แต่รายได้ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯเติบโต 173%  จากการโอนโครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยาในปี 61 มากกว่าปี 60 โดยมีกำไรสุทธิปี 61 อยู่ที่ 236 ลบ. เติบโต 960%YoY อัตรากำไรขั้นต้น 35% เพิ่มขึ้นจาก 33% ในปี 60 และมีอัตรากำไรสุทธิ 9.7% เพิ่มขึ้นจาก 1.3% ในปี 60

จำนวนหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 5 บาท  การระดมทุนมูลค่าประมาณ 750 ลบ.ใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน  และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ราคา IPO คิดเป็น Current PER ที่ 13.51 เท่า ต่ำกว่าบริษัทที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันในตลาดหลักทรัพย์ฯ (MINT CENTEL ERW) ซึ่งมี PER เฉลี่ย 31.25 เท่า  จำนวนหุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารที่ไม่ติด Silent Period เท่ากับ 49.8 ล้านหุ้น คิดเป็น 15.59% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

หุ้นมีข่าว   

·         BIZ (ราคาปิด 2.74 บาท "มุมมองบวก" ราคาเหมาะสม 3.10 บาท) ขายเครื่องจำลองภาพฉายแสง-เครื่องฉายแสงเร่งอนุภาพให้รพ.สวรรค์ประชารักษ์ มูลค่า 124.80 ลบ.

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อข่าว ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยเติม Backlog ของบริษัทเพิ่มสู่ 1.92 พันลบ. อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าโครงการนี้จะรับรู้รายได้ในปี 63 ขณะที่ เราคงประมาณการกำไรปี 62 ที่ราว 72 ลบ. -11%YoY นอกจากนี้ ราคาปรับตัวลง 7% ภายหลังจากออกบทวิเคราะห์ ทำให้มีอัพไซต์เกิน 10% เราจึงปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อเก็งกำไร”

·         + ATP30 (ราคาปิด 1.40 ซื้อ ราคาเหมาะสม 2.40 บาท) ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าประมาร 2-3 ราย มูลค่าสัญญารวมกว่า 150 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในช่วงกลางปีนี้ ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ Q1/62 จะเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากจะรับรู้รายได้ลูกค้ารายใหม่ 2 รายรวม 13 คัน ขณะที่ผลงานไตรมาส 2-3/62 จะเติบโตมากยิ่งขึ้น เพราะจะเริ่มให้บริการรถตู้รับส่งพนักงานของ "บจ.ไทย เอ็นโอเค" เพิ่มอีก 20 คัน (ที่มา มิติหุ้น)

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวของหุ้นในฐานะ EEC  Theme Play การมีลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มฐานรายได้ ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิปี 62 ราว 51 ล้านบาทเติบโต  25% ทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง

·         NOBLE เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนในระยะ 3 ปี (2562-2564) จะมีรายได้ปีละประมาณ 10,000-12,000 ล้านบาท ปี 62 มีแผนเปิดคอนโดฯ 4-5 โครงการมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท แนวโน้มผลประกอบการงวดปี 2562 วางเป้าหมายจะมีรายได้รวม 10,000-12,000 ล้านบาท เติบโต 100% จากปี 2561 ยอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นปี 2561 ประมาณ 17,850 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3 ปีจากนี้ นอกจากนี้บริษัทยังมีสินค้าเหลือขาย (สต๊อก) มูลค่ารวมประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมขายและโอน จำนวน 6,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         THMUI เปิดเผยว่า การจะเข้าลงทุนธุรกิจรับจ้างปรับปรุงคุณภาพน้ำสำหรับฟาร์มกุ้ง ผ่านการซื้อหุ้น 70% ในบริษัท เทรนด์เอเซียคอร์ปอเรชั่น จำกัด (TAC) มูลค่า 21.6 ล้านบาท โดย TAC ได้เข้าทำสัญญารับจ้างปรับปรุงคุณภาพน้ำกับบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) และปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบระบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/62 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทให้แข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งขึ้น (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         UMI เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายจะกลับมามีกำไรได้ภายใน 2-3 ปี (62-64) โดยจะเป็นผลมาจากบริษัทลูก คือ บริษัท ที.ที.เซรามิค จำกัด (TTC) สามารถปรับปรุงผลประกอบการให้กลับมาสู่จุดคุ้มทุนได้ โดยปัจจุบันบริษัท TTC ใช้กำลังการผลิตอยู่ 2 เตาเผา หรือราว 7 ล้านตารางเมตร/ปี ซึ่งหากสามารถใช้กำลังการผลิตได้ถึง 3 เตาเผาก็จะสามารถกลับมามีผลประกอบการถึงจุดคุ้มทุนและเริ่มมีกำไรได้ (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         + RSP วางแผนไตรมาส 2/2562 เดินเกมรุกขยายสาขาใหม่ ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 วางงบ 6-8 แสนบาท เปิด 2 สาขาใหม่แบรนด์ บาร์เรล กทม.-ภูเก็ต หวังกระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งแรกปีเด่น แย้มผลงานโค้งแรกปีนี้ยอดขายเติบโตดีจากไฮซีซัน ประเมินภาพรวมผลงานปี 2562 รายได้ขยายตัวตามเป้า 10% (ที่มา ทันหุ้น)