“รับขนมจีบ ซาลาเปา หรือสินค้าโอทอปเพิ่มไหมคะ?”

“รับขนมจีบ ซาลาเปา หรือสินค้าโอทอปเพิ่มไหมคะ?”

ซีพี ออลล์ เดินหน้าหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมกับ จ.นครพนม โดยสำนักงานพัฒนาชุมชน นำร่องเปิดพื้นที่ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาแลนด์มาร์คพญานาค จ.นครพนม

เป็นที่รู้กันว่าผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยมีกระจายอยู่ทุกจังหวัด และมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป บางชิ้นนอกจากจะเป็นของดีของเด่นประจำจังหวัดแล้ว ยังสามารถติดปีกโบยบินไปไกลถึงต่างแดน สร้างรายได้ไม่น้อยให้แก่ชุมชน

         จากศักยภาพเหล่านี้เองทำให้ “ซีพี ออลล์” เห็นโอกาสที่จะช่วยพัฒนาชุมชนและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เมื่อผนวกเข้ากับทำเลทองร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาแลนด์มาร์คพญานาค ที่ผู้คนที่ผ่านไปต้องมาเช็คอิน  จึงสร้างโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์ชุมชน มีทั้งของกิน ของใช้ จำนวน 32 รายการ อาทิ กาละแมสูตรโบราณ กระติบข้าวเหนียว ตะกร้าหวาย ผ้าขาวม้า เสื่อกก และเสื้อภูไทด้นมือ ฯลฯ ได้จำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น นับเป็นการสร้างโอกาสในการขายสินค้าเหล่านี้ให้คนในท้องถิ่น ได้ยืนด้วยขาของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ ซึ่งนอกจากจะมีรายได้เลี้ยงครอบครัวที่มั่นคงแล้วยังได้ช่วยส่งต่อภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

         โดย วิชัย จันทร์จริยากุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศไทย บอกว่า ร้านเซเว่นฯ มีสาขาอยู่ทั่วไทย ดังนั้นการเปิดพื้นที่ให้สินค้าโอทอปมาจำหน่ายภายในร้านจึงเป็นเรื่องที่ดี โดยเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาแลนมาร์คพญานาคนี้ จะใช้บริเวณชั้น 2 จัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งให้กับสินค้าโอทอป ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสำนักพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม ในการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตไปด้วยกัน

          “โครงการนี้เกิดจากแนวคิดร่วมกันระหว่าง ซีพี อออล์ และ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม ที่ต้องการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้คนทั่วไป ได้เห็นถึงคุณค่าภูมิปัญญาไทยที่ถูกถ่ายทอดเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน เพราะนอกจากจะช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนโดยตรงแล้ว ยังช่วยสร้างงานให้คนหนุ่มสาวได้กลับมาพัฒนาบ้านเกิดจากสินค้าโอทอป ซึ่งเริ่มนำร่องเปิดพื้นที่ให้สินค้าโอทอปมาวางจำหน่ายที่สาขาแลนด์มาร์คพญานาค เพราะเป็นแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสดีสำหรับสินค้าโอทอปได้เข้ามาทดลองเปิดตลาด พร้อมศึกษาความต้องการของลูกค้าเพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองต่อไป” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าว

         ขณะที่พ่อเมืองนครพนม สยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า  เป็นโอกาสดีที่จะทางซีพี ออลล์ เข้ามาช่วยเพิ่มพื้นที่การส่งเสริมการขายของผลิตภัณฑ์ชุมชน หลังจากที่หน่วยงานราชการ ได้เข้าไปส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนผลิตสินค้าที่ดี พร้อมต้องหาตลาดควบคู่กันไป จากเดิมจะมีการออกไปงาน OTOP ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในตัวจังหวัดและออกร้านตามจังหวัดใหญ่ๆ ในภูมิภาคซึ่งการที่มีร้านสะดวกซื้อโดยเฉพาะเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดพื้นที่ภายในร้านให้นำผลิตภัณฑ์ชุมชนเข้ามาวางจำหน่ายได้ก็ถือเป็นโอกาสดี เพราะในแต่ละวันจะมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาในร้านจำนวนมาก และเป็นเรื่องดีที่ทางจังหวัดนครพนม ได้มีโอกาสร่วมงานกับเซเว่น อีเลฟเว่น ทำให้ผู้ที่มีสินค้าชุมชน ได้ความรู้ในเรื่องการพัฒนาคุณภาพ รสชาติ ให้ถูกสุขอนามัย รวมถึงพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้จูงใจผู้ซื้อ แค่นี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วที่ได้ร่วมทำงานกับมืออาชีพด้านค้าปลีกของประเทศ

58761511_2269230316469101_487461419248254976_o

          “การเลือกสาขาแลนด์มาร์คพญานาค ซึ่งเป็นใจกลางของจังหวัด และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ใครผ่านมาก็จะแวะเวียนมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเมื่อมีสินค้าชุมชนเข้ามาจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ ก็ยิ่งช่วยเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมสินค้าและเลือกซื้อไปเป็นของขวัญของฝากกลับไป จากคุณภาพและราคาที่เหมาะสม” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าว

         สำหรับสินค้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม สามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่ ของใช้ อย่าง เสื้อผ้า ผ้าทอ ขณะที่ของกิน เป็นประเภท อาหาร และขนม โดย พักสุดา วงศ์ตาพรม ประธานกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าไทพิมาน เผยว่า หนึ่งในสินค้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม คือผ้าย้อมสีธรรมชาติจากเปลือกไม้หรือใบไม้ โดยจะเลือกไม้มงคล เช่น ไม้ขาม ไม้พยุง ต้นคูณ หรือชัยพฤกษ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับผู้สวมใส่ หรือนำมาพัฒนาเป็นของใช้ เช่น ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ หรือจะนำมาย้อมเป็นผ้าตัดเสื้อ และนำมาแปรรูปตัดเย็บด้วยจักร พร้อมปักลวดลายด้วยมือ กลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อของ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม

         และล่าสุดยังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสินค้าชุมชนที่จำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เธอบอกว่า โครงการนี้สร้างประโยชน์อย่างมากให้คนในชุมชน เพราะอำเภอนาแก ไม่ได้อยู่ในเขตเมือง ดังนั้นการเข้าถึงผลิตภัณฑ์โอทอปของนักท่องเที่ยวเพื่อมาอุดหนุนสินค้าจึงเป็นเรื่องยาก เพราะถ้าไม่ได้ออกบูธแสดงสินค้าที่เมืองทองในงานโอทอป ก็จะไม่มีช่องทางการตลาด แต่ทางซีพี ออลล์ ได้มอบพื้นที่นำสินค้าที่ผลิตได้ยังไม่มากมาจำหน่ายเพื่อเพิ่มยอดแล้ว กลายเป็นตัวช่วยโฆษณาให้คนรู้จักผ้าไทพิมานมากขึ้น

          “เห็นได้ชัดว่าช่องทางจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ ช่วยให้ผ้าไทพิมานเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าไปวางจำหน่ายเองเพียงแค่กลุ่มเดียวก็ไม่ได้รับสนใจ แต่เมื่อซีพี ออลล์ให้โอกาส เมื่อคนมาเห็นมาซื้อก็จะบอกต่อ ๆ ทำให้กลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้ามีอาชีพ และมีรายได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน ที่เมื่อก่อนต้องทิ้งครอบครัวไปเย็บผ้าที่กรุงเทพฯ แต่ตอนนี้เราก็ดึงกันกลับมารวมกลุ่ม แล้วก็ตัดเย็บเสื้อผ้า และส่งมาขาย ถือเป็นการให้โอกาสมากมายที่สุดสำหรับกลุ่มแม่บ้าน แถมยังช่วยลดช่องว่างในครอบครัว เพราะเมื่อมีอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า สมาชิกในครอบครัวก็ไม่ต้องออกไปหางานทำในกรุงเทพฯ ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวอบอุ่นขึ้น จากเดิมเมื่อสิ้นสุดฤดูทำนาแม่บ้านจะต้องทิ้งครอบครัวไปเย็บผ้าที่กรุงเทพฯ แต่ตอนนี้เราไม่ได้ไปแล้ว และรวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปขึ้นกลายเป็นความยั่งยืนในชุมชนที่ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้” ประธานกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าไทพิมาน กล่าว

59295605_2269230323135767_2883026256620683264_o

         ขณะที่มุมมองของลูกค้า ยงยุทธ ลักษณะพรหม เจ้าของธุรกิจส่วนตัว ให้ความเห็นว่า การขายสินค้าโอทอปในร้านเซเว่นฯเป็นแนวคิดที่ดี เพราะอย่างน้อยที่สุดก็เป็นช่องทางให้กับกลุ่มชาวบ้านที่มีช่องช่องทางการจำหน่ายค่อนข้างจะจำกัดอยู่แล้วให้กว้างขึ้น และจะยิ่งประโยชน์แก่ชาวบ้านขึ้นไปอีกหากบุคลากรของซีพี ออลล์ ที่มีมากพออยู่แล้ว ได้เข้าไปช่วยเหลือกลุ่มชาวบ้านให้ประสิทธิภาพในการพัฒนาสินค้าผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะรูปแบบสินค้า การจัดจำหน่าย ก็จะช่วยทำให้สินค้ามีความน่าสนใจมากขึ้น

         อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ซีพี ออลล์ ได้ส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอีที่มีผลิตสินค้าคุณภาพมาตรฐานและเป็นที่นิยมจากประชาชนมาตลอด โดยบริษัทจะเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ SME มีโอกาสส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภคผ่านร้านเซเว่นฯ ทั่วประเทศ และผ่านช่องทางของบริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด ซึ่งมีหลากหลายช่องทาง ทั้งนิตยสารทเวนตี้โฟร์ แคตตาล็อก ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ และอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบันทั้งเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ได้จัดจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีรวมทั้งสิ้นกว่า 13,000 รายการ และมีการพัฒนา SME ให้เติบโต แข็งแรงเป็นบริษัทขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามปณิธานองค์กรที่ว่า “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน”

59366935_2269230406469092_344093602726543360_o

59144835_2269230463135753_5322158245811322880_o