กลุ่ม NCP ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้กทท.ประมูลแหลมฉบังเฟส3 ไม่โปร่งใส

กลุ่ม NCP ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้กทท.ประมูลแหลมฉบังเฟส3 ไม่โปร่งใส

กลุ่ม NCP บุกร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีกทท.เปิดประมูลบริหารจัดการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ไม่โปร่งใส ยันยื่นเอกสารครบถ้วน ถูกต้องตรงตามเงื่อนไข เล็งยื่นร้องปปช. ศาลปกครองกลางต่อไป

นายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ได้รับข้อร้องเรียนการพิจารณาคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนก่อสร้าง บริหาร และประกอบการโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในสาวนท่าเทียบเรือ F ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) จากกลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็นพีซี(NPC) ซึ่งประกอบด้วย บจ.นทลิน จำกัด, บจ.แอสโซซิเอท อินฟินิตี้, บจ.พีเอชเอส ออแกนิค ฮีลลิ่ง, บมจ.พริมา มารีน และ บจ.ไชน่า เรลเวย์ คอนสตรักชั่น คอร์ปอเรชั่น จากประเทศจีน ในกรณีที่ทางกลุ่มได้ยื่นเอกสารในซองที่ 2 เพื่อประกอบการคัดเลือก ผลปรากฏว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี ยื่นเอกสารเข้ามาไม่ครบตามมาตรฐานที่คณะกรรมการกำหนดทำให้ไม่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่งทำให้คณะกรรมการตัดสิทธิ์กลุ่มเอ็นซีพีในการเข้าประมูลโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ผู้ร้องที่นำโดยนายเผด็จ เมธิยานนท์ ในนามผู้แทนกลุ่ม NPC ร้องว่าได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมอันเนื่องจากการพิจารณาข้อเสนอร่วมลงทุนของกทท. ในกระบวนการคัดเลือกเอกชนอันเนื่องมาจากการไม่ปฏิบัติตามกฏหมายหรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอำนาจตามกฏหมายของกทท. ผู้อำนวยการกทท. และคณะกรรมการคัดเลือกฯที่อาจส่งผลต่อความโปร่งใส ความชอบด้วยกฏหมาย ของกระบวนการคัดเลือกในครั้งนี้

“เบื้องต้นเห็นว่าสามารถจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกันได้ เบื้องต้นนั้นจะต้องฟังความของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และทราบว่าทางกลุ่มได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์กับกทท.ไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา โดยซองที่ 2ได้รับผลกระทบกับทางกลุ่ม NPC ที่โดนตัดสิทธิ์ในครั้งนี้จึงไม่ได้รับสิทธิ์เข้าสู่การพิจารณาในซองอื่นๆต่อไป ทั้งๆที่เห็นว่ามีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนแล้ว ซึ่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะเร่งตรวจสอบโดยเร็วต่อไปพร้อมกับเชิญกทท.เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงในครั้งนี้ด้วย”

รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวอีกว่าอย่างไรแล้วจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องให้เกิดความรอบคอบ เป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สำหรับห้วงเวลาให้คำตอบกับทางกลุ่ม NPC นั้นยังไม่สามารถบอกได้แต่จะดำเนินการอย่างรอบคอบเป็นธรรม เรื่องที่ถูกร้องเรียนอยู่ในอำนาจหน้าที่หรือไม่ จะต้องเสนอความเห็นข้อกฏหมายไปตามคำร้องดังกล่าวเพื่อประทับรับฟ้องเพื่อเข้าสู่กระบวนการต่อไป

ด้านเผด็จ เมธิยานนท์ ในนามผู้แทนกลุ่ม NPC กล่าวว่าผู้อำนวยการกทท.ได้มีหนังสือแจ้งมายังกลุ่ม NPC ฉบับลงวันที่ 23 เมษายน 2562 โดยแจ้งว่าทางกลุ่ม NPC เป็นผู้ไม่ผ่านการประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 ซองคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ เนื่องจากในส่วนสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ของกลุ่มกิจการร่วมค้า NPC มีความไม่ครบถ้วนและความไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในเอกสารการคัดเลือกเอกชน(Request for Proposal : RFP) ของโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F

โดยยืนยันว่าได้ดำเนินการยื่นเอกสารข้อเสนอด้านคุณสมบัติทั่วไปโดยถูกต้องครบถ้วนตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดใน RFP โดยในส่วนของเอกสารสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่นั้น ทางกลุ่ม NPC ได้ดำเนินการจัดทำและยื่นสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ตามแบบที่กำหนดพร้อมทั้งให้ตัวแทนของแต่ละสมาชิกลงนามและประทับตราสำคัญบริษัทในหน้าลงนามของสัญญาฉบับดังกล่าวโดยครบถ้วนแล้ว

“ทางกลุ่ม NPC เห็นว่าได้รับความเสียหายอีกทั้งยังกระทบต่อผลประโยชน์ที่ทางกทท.จะได้รับเนื่องจากจะเหลือผู้เข้าประมูลอีกเพียง 1 ราย ที่อาจจะผ่านเข้าไปเปิดซองผลประโยชน์ต่างๆตอบแทนให้กทท. และคิดว่าไม่เป็นธรรมกับทางกลุ่ม NPC อีกทั้งทางกลุ่ม NPC มั่นใจว่าผลประโยชน์ตอบแทนที่นำเสนอให้ภาครัฐในครั้งนี้ในส่วนซองที่ 4 จะแข่งขันได้จึงมีความมั่นใจ หากโดนตัดสิทธิ์อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งๆที่เป็นเพียงขั้นตอนของการพิจารณาเสนอข้อมูลเบื้องต้นและทางกลุ่มจัดทำเอกสารครบถ้วนจึงไม่เป็นธรรมกับทางกลุ่ม NPC และกทท.ตลอดจนประเทศชาติเสียผลประโยชน์มหาศาลจึงได้เข้ามาร้องเรียนกับผู้ตรวจการแผ่นดินดังกล่าวพร้อมกับเตรียมร้องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ศาลปกครองกลาง ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบและศาลแพ่งต่อไป”