CPF - ซื้อ

CPF - ซื้อ

ส้มหล่นต่อ CPF ในปี 2562-63 จากการระบาดของไข้หวัดหมูแอฟริกัน

โรคไข้หวัดหมูแอฟริกันที่แพร่ระบาดในหมูอยู่ ณ ขณะนี้ในหลายประเทศมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานหมูในตลาดโลกขาดแคลนในช่วงปี 2562 และต่อเนื่องไปยังปี 2563 CPF ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจหมูในระบบฟาร์มปิดมีแนวโน้มที่จะได้รับผลบวกระยะยาวจากราคาหมูที่ยังคงยืนอยู่ในระดับสูง และปริมาณยอดขายที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในช่วงวัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจหมูเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากเหตุผลของกำไรหลักปี 2562 ที่ปรับตัวดีขึ้น และมูลค่าหุ้นที่ยังคงน่าสนใจโดยอัตราส่วน PER ปี2562 อยู่ที่ 12.9 เท่า

ผลบวกสุทธิระยะยาวจากการเข้าซื้อธุรกิจหมูในประเทศแคนาดา

เราคาดว่าการเข้าถือหุ้นของ CPF สัดส่วน 50.1% ใน HyLife Group Holdings Ltd (“HyLife”) ซึ่งดำเนินธุรกิจหมูในประเทศแคนาดาจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ CPF ในระยะยาวเนื่องจาก HyLife จะเปิดช่องทางให้กับ CPF ไปสู่ฐานการผลิตหมูที่มีต้นทุนต่ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเปิดโอกาสสำหรับการขยายตลาดไปสู่ทวีปอเมริกาเหนือและตลาดหมูพรีเมี่ยมในประเทศญี่ปุ่นด้วย มูลค่าของผลประโยชน์ร่วมจากการซื้อกิจการในระยะยาวจะมาจากการขยายสินค้าในกลุ่มของ HyLife ไปสู่ผลิตภัณฑ์หมูปรุงสุก และผลิตภัณฑ์หมูที่สร้างมูลค่าเพิ่ม และโอกาสของการใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ ฐานลูกค้าและเครือข่ายการจัดจำหน่ายของ CPF ในประเทศสหรัฐฯ และจีนเพื่อเจาะตลาดและเพิ่มยอดขายของ HyLife ในทั้งสองประเทศ เราประเมินว่าดีลข้างต้นจะส่งผลกระทบสุทธิทางบวกต่อกำไรสุทธิของ CPF คิดเป็น 4-5% ซึ่งเรายังคงไม่ได้รวมเข้าไปในประมาณการของเรา ณ ปัจจุบัน

วัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจหมูในตลาดโลก; ราคาหมูเวียดนามกลับมาฟื้นตัวในเดือนเม.ย.

ธุรกิจหมูในตลาดโลกซึ่งอยู่ในวัฎจักรขาขึ้นมีแนวโน้มต่อเนื่องไปในปี 2562 จนถึงปี 2563 เนื่องจากราคาหมูที่มีแนวโน้มยืนแข็งแกร่งซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูแอฟริกันในหลายประเทศ และเนื่องจากวงจรการเลี้ยงหมูซึ่งมีระยะเวลายาว 9-12 เดือน ส่งผลให้ภาวะการขาดแคลนอุปทานหมูมีชีวิตน่าจะลากยาวไปถึงปี 2563 ดังนั้นคาดว่าจะส่งผลให้ราคาหมูในตลาดโลกมีแนวโน้มยืนในระดับสูงในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ต่อเนื่องไปถึงปี 2563 ราคาหมูในประเทศเวียดนามฟื้นตัว 8% มาอยู่ที่ 43,000 ดอง/กก. (ช่วงวันที่ 15-19 เม.ย.) จากราคาเฉลี่ยที่ 40,000 ดอง/กก. ในเดือนมี.ค. 2562 ซึ่งราคาเฉลี่ยที่ลดลงในเดือนมี.ค. เป็นผลมาจากความตกใจของผู้ประกอบการหมูรายย่อยของ
ประเทศเวียดนามที่ดัมพ์อุปทานหมูเข้ามาในตลาดจำนวนมากทันทีที่โรคไข้หวัดหมูแอฟริกันระบาดไปยังตอนเหนือและตอนกลางของประเทศเวียดนาม แต่ถึงแม้ว่าราคาหมูเวียดนามย่อตัวลงในเดือนมี.ค. แต่ราคาหมูเวียดนามเฉลี่ยในไตรมาส 1/62 ถือว่ายังคงยืนอยู่ในระดับสูงที่ 46,156 ดอง/กก. หรือเพิ่มขึ้น 49% YoY แต่ลดลง 6% QoQ ส่งผลให้ธุรกิจหมูในประเทศเวียดนามคาดว่ายังคงรายงานกำไรที่เติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 1/62 (ราคาเฉลี่ยถ้าเทียบกับต้นทุนการผลิตหมูในประเทศเวียดนามซึ่งอยู่ที่ 35,000 ดอง/กก.)

ส่องกล้องไตรมาส 1/62—พลิกกลับจากขาดทุนหลักมาเป็นกำไรหลัก

เราประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 1/62 ที่ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 91% QoQ หากไม่รวมรายการอัตราแลกเปลี่ยน กำไรหลังหักภาษีจากการเทรดดิ้งหุ้นCPALL และขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ (ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ หมูมีชีวิตในประเทศเวียดนาม) กำไรหลักในไตรมาสนี้มีแนวโน้มอยู่ที่ 2.52 พันล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนหลัก 75 ล้านบาทในไตรมาส 1/61 (และเพิ่มขึ้น 50% QoQ) การพลิกกลับมาเป็นกำไรหลักเนื่องมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวสูงขึ้น (จากการพลิกกลับมาเป็นกำไรของธุรกิจหมูในประเทศเวียดนามและในประเทศไทย) และผลขาดทุนจากเบลลิซิโอที่ลดลง กลบผลกระทบของส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL ที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย ภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น และการพลิกกลับจากเครดิตภาษีมาเป็นภาษีจ่าย เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 14% ในไตรมาส 1/62 (เทียบกับ 9.4% ในไตรมาส 1/61 และ 12.6% ในไตรมาส 4/61) ไตรมาส 1/62 ถือได้ว่าเป็นไตรมาสที่มีกำไรหลักปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่