ปชป. ป่วน องค์ประชุมไม่ครบ!

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการนัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2562 ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​ นัดประชุมเมื่อเวลา 09.30 น. โดยมีวาระพิจารณารรับรองงบการเงิน และขอมติที่ประชุมเพื่องดเว้นการใช้ข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ชั่วคราว กรณีการลงมติเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

ทั้งนี้การนัดประชุมดังกล่าว ได้เชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการบริหารพรรค, ว่าที่ ส.ส.ของพรรค,​ตัวแทนสาขาพรรค, อดีต ส.ส. จำนวน 308 คนเข้าร่วมประชุม แต่เวลาผ่านไปถึงเกือบเที่ยงวัน การประชุมไม่สามารถเริ่มขึ้นได้ เพราะองค์ประชุมที่ลงลายมือชื่อประชุมเพียง 221 เสียง ถือว่าไม่ครบจำนวนที่ข้อบังคับพรรคกำหนดให้ยึดองค์ประชุม 2 ใน 3 คือ 250 คน เพราะขาดองค์ประชุมอีก 29 คนทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการต้องนัดประชุมเพื่อขอละเว้นของบังคับการประชุมเพื่อให้สิทธิ์สมาชิกพรรคที่มีสถานะเป็นอดีตหัวหน้าสาขาพรรค และ ผู้ที่ลงชื่อเป็นผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมประชุมแทนองค์ประชุมที่ไม่ครบได้ เพื่อให้การประชุมสามารถดำเนินการต่อได้

ขณะที่กลุ่มของนายถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือร่วมกัน โดยมี นายเจือ ราชสีห์ , นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นต้น ร่วมด้วย ทั้งนี้นายถาวร ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่ไม่สามารถเปิดประชุมได้ โดยระบุว่าเมื่อยังเปิดไม่ได้ ตนและคณะจะออกไปรับประทานอาหารเที่ยงก่อน กลับมาร่วมประชุมอีกครั้งเวลา 13.00 น.

      

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 12.00 น. การประชุมของพรรคประชาธิปัตย์ได้เริ่มขึ้น โดยที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ ได้ขอให้เว้นการใช้ข้อบังคับการประชุม เพื่อให้สิทธิ์ผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมเป็นองค์ประชุมได้ ทำให้องค์ประชุมครบและเริ่มประชุมตามระเบียบวาระได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ได้ทำหนังสือขอบคุณมอบสมาชิกพรรคทุกคนที่เป็นสมาชิกแบบตลอดชีพ โดยระบุข้อความว่า ด้วยความศรัทธาเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรค และมีส่วนร่วมในการรณรงค์สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา แม้ผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายของพรรค แต่ทุกการสนับสนุนของสมาชิกพรรคทุกคนล้วนมีคุณค่ายิ่ง จึงขอเชิญชวนสมาชิกทุกคนร่วมกันเป็นพลังขับเคลื่อนพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสถาบันการเมืองให้เจริญก้าวหน้า เป็นพรรคการเมืองหลักที่ทำงานการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ตามแนวทางและอุดมการณ์ของพรรคที่มั่นคงสืบไป.