กรมวิชาการเกษตรส่งเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ระยอง จันทบุรี ตราด สุ่มตรวจทุเรียนก่อนส่งจีน พร้อมเร่งรัดออกใบรับรองโรงคัดบรรจุ ชี้ตลาดขยายตัวต่อเนื่อง มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท
นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง ผู้อำนวยการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เพื่อเป็นป้องกันส่งออกทุเรียนไม่ได้คุณภาพ โดยเฉพาะทุเรียนอ่อน ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เป็นตลาดหลักของไทยมีมูลค่ากว่าปีละกว่า 15,000 ล้านบาทและมีแนวโน้มขยายตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กรมวิชาการเกษตรจึงระดมเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชทั่วประเทศหมุนเวียนกันมาตรวจศัตรูพืชในพื้นที่จ.จันทบุรี เพื่อควบคุมตรวจสอบและออกใบรับรองสุขอนามัยพืชทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศและอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรและการออกใบรับรองโรงคัดบรรจุ(GMP)
รวมทั้งได้จัดประชุมชี้แจง และตรวจเยี่ยมโรงคัดบรรจุทุเรียนก่อนถึงฤดูกาลส่งออกทุเรียน และก่อนส่งออก โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชลงประจำพื้นที่เพื่อทำการสุ่มตรวจทุเรียน หากไม่ทำตามเงื่อนไขจะงดการออกใบรับรอง ณ โรงคัดบรรจุ จ.จันทบุรี ระยอง และตราด
กรณีได้รับการแจ้งเตือนการตรวจพบศัตรูพืชจากประเทศปลายทางกรมวิชาการเกษตรจะส่งเจ้าหน้าที่จากด่านตรวจพืชเข้าไปติดตาม และตรวจสอบสาเหตุการปนเปื้อนศัตรูพืช พร้อมกับให้คำแนะนำแก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสม
นอกจากนี้ ยังได้จัดส่งนายตรวจพืชลงพื้นที่สุ่มตรวจทุเรียนก่อนการส่งออกที่โรงคัดบรรจุในพื้นที่ จ.จันทบุรี ระยองและตราด โดยโรงคัดบรรจุและผู้ส่งออกต้องขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ก่อนบรรจุทุเรียนจะมีการตรวจสอบว่าทุเรียนได้มาตรฐานตามที่กำหนดหรือไม่
ทั้งนี้ได้กำหนดให้ติดสติกเกอร์ที่ขั้วผล ตามประกาศกรมวิชาการเกษตรเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกทุเรียนไปนอกราชอาณาจักรและป้ายข้างกล่องบรรจุต้องระบุชื่อบริษัท รหัสผู้ส่งออก หมายเลขทะเบียนสวนหรือรหัสแปลงมาตรฐาน GAP พร้อมระบุวันเดือนปีที่คัดบรรจุและมีคำว่า “Export to China” ซึ่งจะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้