นักดำน้ำชาวออสเตรเลียเยี่ยมหมูป่า ก่อนเข้าสำรวจถ้ำหลวงอีกครั้ง

นักดำน้ำชาวออสเตรเลียเยี่ยมหมูป่า ก่อนเข้าสำรวจถ้ำหลวงอีกครั้ง

นักดำน้ำชาวออสเตรเลียเยี่ยมหมูป่า ก่อนเข้าสำรวจถ้ำหลวงอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.62 ที่วัดพระธาตุดอยเวา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ดร.ริชาร์ด แฮริส และดร.เครก ชาลเลน 2 นักดำน้ำชาวออสเตรเลีย ที่ร่วมปฏิบัติภาระกิจช่วยเหลือนักเตะและโค้ช ทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน เมื่อ 23 มิ.ย.61 ถึง 2 ก.ค.61 นั้น ได้เดินทางมาพร้อมครอบครัว เพื่อเยี่ยมสมาชิกทีมหมู่ป่า โดยทางกระทรวงวัฒนธรรมได้นำคณะของ นักดำน้ำทั้ง 2 คน มาพบกับน้องๆทีมหมูป่า และโคช ก่อนจะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ 13 หมูป่า ก่อนจะเดินทางไปยังถ้ำหลวง

โดยที่ถ้ำหลวง นายกมลไชย คชชา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ได้ให้การต้อนรับคณะของ 2 นักดำน้ำ โดยมี มร.เวิร์น อันสเวิร์ธ และมร. โจชัว เดวิด มอร์ริส ผู้ที่ร่วมปฏิบัติการในการช่วยเหลือ 13 หมูป่า เดินทางมาร่วมด้วย โดยในครั้งนี้ ทางคณะของ 2 นักดำน้ำจะได้เข้าไปสำรวจภายในถ้ำหลวง ร่วมกับ มร.เวิร์น และมร.โจชัว เพื่อสำรวจความเปลี่ยนแปลงภายในถ้ำหลวง โดยมีเจ้าหน้าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ร่วมเดินทางเข้าไปสำรวจด้วย โดยการเข้าไปสำรวจถ้ำหลวงครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 21 คน คาดว่าจะเดินทางเข้าไปจนถึงจึดที่เรียกว่าหากพัทยา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการเดินทางทั้งไปและกลับประมาณ 3 ชั่วโมง

โดยทาง ดร.ริชาร์ด แฮริส ดร.เครก ชาลเลน มร.เวิร์น อันสเวิร์ธ และมร. โจชัว เดวิด มอร์ริส ได้กล่าว่า การเข้าไปสำรวจถ้ำในครั้งนี้เพื่อเป็นการสำรวจถึงความเปลี่ยนแปลงภายในถ้ำหลวง และเป็นการรำลึกถึงการปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือ 13 หมูป่าออกาจากถ้ำด้วยเพราะครั้งนั้นทุกฝ่ายต่างช่วยหลือกันเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันในการช่วยเหลือให้ทั้ง 13 คนรอดชีวิตออกมาให้ได้ ซึ่งจากการที่กลับมาในครั้งนี้ก็ได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่โดยรอบของ วนอุทยานถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน ที่มีการบูรณใหม่อย่างสวยงามและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาที่นี่ด้วย

ด้าน ดร.กมลไชย คชชา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 กล่าวว่า การกลับมาเยือนของทีมนักดำน้ำชาวออสเตเลียในครั้งนี้ก็เหมือนกับทุกคนที่เคยผ่านประสบการณ์ในการปฏิบัติภาระกิจร่วมกันในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งในช่วง 18-19 วันที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่นี่เป็นเหมือนประวัติศาสตร์ของโลก และทำให้เกิดความประใจ ซึ่งทุกคนก็อยากจะย้อยกลับมาดูว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง สำหรับการเดินทางเข้าไปยังจุดที่พบตัวผู้ประสบภัยทั้ง 13 คนนั้น ในขณะนี้เข้าไปได้สะดวกกว่าตอนที่ปฏิบัติภาระกิจมากเพราะช่วงนั้นมีน้ำไหนที่แรงและหนาวเย็นออกมาจากถ้ำ ทำให้การเข้า - ออกเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ปัจจุบันภายในถ้ำแห้งและไม่มีน้ำทำให้การเดินเข้าไปสำรวจเป็นไปได้ง่ายกว่า และคาดว่าการเดินทางเข้า- ออกจากปากถ้ำไปจนถึงจุดหาดพัทยาจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น