ค่ายรถใหญ่แห่ทุ่มทุน'อีวี'รับกระแสยานยนต์ยุคใหม่

ค่ายรถใหญ่แห่ทุ่มทุน'อีวี'รับกระแสยานยนต์ยุคใหม่

ความต้องการรถพลังงานไฟฟ้ายังอยู่ระดับต่ำในตลาดสหรัฐ แต่บรรดาผู้บริหารอุตสาหกรรมยานยนต์ในงานมอเตอร์โชว์นิวยอร์กที่จัดขึ้นสัปดาห์นี้ กล่าวว่า กำลังเดินหน้าทุ่มเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ แม้อาจต้องใช้ความอดทนสูงก็ตาม

ผู้บริหารเหล่านี้ ระบุว่า บริษัทของตนกำลังเตรียมการล่วงหน้า ในช่วงกระแสรถพลังงานไฟฟ้า (อีวี) รุ่นใหม่ ๆ ซบเซา ผลจากการคุมเข้มมากขึ้นของรัฐบาลทั่วโลก

ข้อมูลจากสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว มีเพียง 2% ของยอดขายรถในสหรัฐที่เป็นรุ่นพลังงานไฟฟ้าทั้งคัน หรือรุ่นปลั๊กอินไฮบริด โดย “เทสลา อิงค์” คิดเป็นสัดส่วนกว่า 1 ใน 3 ของยอดขายดังกล่าว สหรัฐรั้งอันดับ 7 ประเทศที่มีสัดส่วนยอดขายรถอีวีต่อยอดขายรถทั้งหมดสูงที่สุดในโลก

มิเชลล์ เคร็บส์ นักวิเคราะห์จากเว็บไซต์ซื้อขายรถออนไลน์ “ออโตเทรดเดอร์” คาดการณ์ว่า ยอดขายรถอีวีจะยังอยู่ในระดับปานกลางต่อไปจนกว่าสถานีชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้า ราคา และประสิทธิภาพแบตเตอรี่จะดีขึ้น

“ทางเส้นนี้ยังอีกยาวไกล” เคร็บส์ระบุ และเสริมว่า ยอดขายรถอีวีอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มรถที่ใช้สำหรับราชการและรถเอกชน

ในนครนิวยอร์ก บรรดาผู้บริการอุตสาหกรรมกล่าวว่า พวกเขาเผชิญกับอุปสรรคในการจำหน่ายรถอีวี เช่น เชื้อเพลิงที่มีราคาถูกมานาน การขาดความรู้ของผู้บริโภค มูลค่าคงเหลือที่ลดลง ต้นทุนเริ่มต้นที่สูงขึ้น เนื่องจากชุดแบตเตอรี่และความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับความพร้อมของสถานีชาร์จแบตเตอรี่

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ผลิตรถต่างเปิดตัวรถอีวีที่มีรูปลักษณ์สปอร์ตและสร้างสรรค์มากกว่ารุ่นปลั๊กอินแบบดั้งเดิม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถขนาดเล็ก

ในงานมอเตอร์ที่นิวยอร์ก บริษัทเจเนซิส มอเตอร์ ผู้ผลิตรถหรูในเครือฮุนได มอเตอร์ โคของเกาหลีใต้ เปิดตัวรถอีวีต้นแบบที่เรียกว่า “มินต์” สามารถวิ่งได้ราว 322 กม.ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้งและชาร์จใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่บริษัทในเครือ “เกีย” เปิดตัวรถครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้าต้นแบบรุ่น “ฮาบานิโร” ที่มาพร้อมกับประตูแบบปีก

ยักษ์ใหญ่เยอรมนีอย่าง “เดมเลอร์ เอจี” เผยโฉมรถเอสยูวีเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น “อีคิวซี เอดิชัน 1886” ซึ่งจะออกจำหน่ายในปีหน้า

“หลังจากนั้น เรายังมีรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ อีกมากมายที่จะเปิดตัวในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า” ดีตมาร์ เอกซ์เลอร์ ประธานบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ สหรัฐ กล่าว

ด้านจากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ เริ่มจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้ารุ่น “ไอ-เพซ” เมื่อปลายปีที่แล้วในสหรัฐ และมียอดขายเพียงประมาณ 200 คันต่อเดือน

“อาจจะต้องใช้เวลาอีกนานมาก ๆ กว่าเราจะได้เห็นการใช้รถพลังงานไฟฟ้าเป็นวงกว้าง” โจ อีเบอร์ฮาร์ดท ประธานสาขาอเมริกาเหนือของจากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ ระบุ ทั้งนี้ รถ “ไอ-เพซ” ซึ่งมีราคา 7 หมื่นดอลลาร์ ได้รับรางวัลรถระดับโลกแห่งปีในงานมอเตอร์สัปดาห์นี้ด้วย

อีเบอร์ฮาร์ดท กล่าวว่า ปัจจุบันมีรถใช้น้ำมันเกือบ 300 ล้านคันบนท้องถนนทั่วสหรัฐ และคงไม่มีใครทิ้งรถเหล่านี้ลงในมหาสมุทร

“ข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจของรถพลังงานไฟฟ้าคือสิ้นเปลืองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันในปัจจุบัน เจ้าของรถไอ-เพซจะประหยัดเงินเฉลี่ยราว 500 ดอลลาร์ต่อปี จากการใช้รถพลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน แต่รถเหล่านี้ก็จะมีต้นทุนการบำรุงรักษาเช่นกัน”

นอกจากนั้น บริษัทโฟล์คสวาเกน เอจีของเยอรมนี และออดี้ บริษัทลูก จะเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้าใหม่ราว 6 รุ่นใน 2 ปีข้างหน้า และตั้งเป้าหมายทะเยอทะยานเอาไว้ว่า 20-30% ของยอดขายรถบริษัทต้องเป็นรถอีวีภายในปี 2568

โฟล์คสวาเกนตกลงที่จะเพิ่มรถพลังงานไฟฟ้าอีกอย่างน้อย 3 รุ่น รวมถึงรถเอสยูวี 1 รุ่นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ภายในปี 2563 อันเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงยอมความกรณีอื้อฉาวโกงค่าไอเสียเครื่องยนต์ดีเซลของค่ายรถเยอรมันรายนี้

สกอตต์ คีโอห์ ประธานโฟล์คสวาเกน สหรัฐ กล่าวว่า บริษัทซึ่งเปิดตัวรถอีวีต้นแบบชื่อ “ไอดี บักกี” ได้ลงทุนในรถพลังงานไฟฟ้าเพื่อสร้างรายได้ให้บริษัท ไม่ใช่เพื่อ “ไถ่บาป” กรณีอื้อฉาวโกงค่าไอเสียรถดีเซลเมื่อปีที่แล้ว

“จะมีการเปิดตัวรถอีวีรุ่นใหม่ ๆ อย่างคึกคักในช่วง 3 ปีข้างหน้า แต่อาจจะช้ากว่านั้นอีก 2-3 ปี” คีโอห์เผย และว่า “ผมคิดว่าปี 2568 คุณน่าจะได้เห็นกันจริง ๆ ว่าอุตสาหกรรมนี้ไปต่อได้หรือไม่”

ในสัปดาห์นี้ ออดี้เผยว่า มีแผนจะเริ่มส่งมอบรถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ “อี-ทรอน” ให้กับผู้บริโภคในสหรัฐในเดือนหน้า มาร์ค เดล รอสโซ ประธานออดี้ อเมริกา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทส่งมอบรถรุ่นทดสอบให้ตัวแทนจำหน่าย300 ราย ลูกค้าหลายคนที่จองรถอี-ทรอน ล้วนเป็นหน้าใหม่สำหรับแบรนด์ออดี้