ไทยพาณิชย์ประกาศกำไรไตรมาสแรกวูบ19%

        นายอาทิตย์นันทวิทยาประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิในไตรมาส1 ของปี2562 จำนวน9,157 ล้านบาทลดลง19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยมีสาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานจากกฎหมายแรงงานใหม่แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น29% ตามการปรับตัวดีขึ้นของการดำเนินงานที่สำคัญ

     ในไตรมาส1 ปี2562 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน24,713 ล้านบาทเพิ่มขึ้น6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยเงินให้สินเชื่อของธนาคารเติบโต3% เป็นผลจากการที่ธนาคารอยู่ในระหว่างการปรับพอร์ตสินเชื่อและเริ่มขยายสินเชื่อในธุรกิจที่มีผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงเล็กน้อยเพียง0.3%

       ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น10% จากไตรมาสก่อนโดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศนอกจากนี้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของรายได้สุทธิจากธุรกิจประกันชีวิต

       ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในไตรมาสนี้มีจำนวน17,835 ล้านบาทเพิ่มขึ้น10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ11% จากไตรมาสก่อนเป็นผลจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานจากกฎหมายแรงงานใหม่จำนวน1.4 พันล้านบาท

        ส่วนคุณภาพของสินเชื่อปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ(NPL) มีจำนวนลดลงในขณะที่อัตราส่วนNPL ปรับตัวดีขึ้นเป็น2.77% จาก2.85% ในไตรมาสก่อน.                      

         และจากการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติ่มไว้ในไตรมาสก่อนธนาคารจึงได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวม5,420 ล้านบาทในไตรมาสนี้หรือคิดเป็นอัตราส่วนค่าใช้จ่ายหนี้สูญต่อสินเชื่อที่1.02% ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจในปัจจุบันอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับสูงขึ้นเป็น152.8% เมื่อเทียบกับ146.7% ในไตรมาสก่อนและเงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่17.1%

        “แม้ว่าในไตรมาสนี้ธนาคารจะได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานจากกฎหมายแรงงานใหม่ธุรกิจหลักของธนาคารยังคงขยายตัวได้ดีและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งสะท้อนจากผลลัพธ์ของโครงการTransformation ที่ได้ปรากฎเด่นชัดขึ้นตามลำดับรวมถึงจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการบนดิจิทัลแพลตฟอร์มของธนาคารเพิ่มขึ้นส่งผลต่อการสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่และการปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่จะทยอยลดลงในอนาคต