“เอเยนซี” ชี้ธุรกิจแตะเบรกซื้อสื่อ รอการเมืองชัด

“เอเยนซี” ชี้ธุรกิจแตะเบรกซื้อสื่อ รอการเมืองชัด

นายกสมาคมมีเดียฯ ชี้ไตรมาสแรกติดลบ 1 % จับตาไตรมาส 2 กระเตื้อง ระบุการเมืองเป็นตัวแปร กระทบธุรกิจ ชี้การเมืองยังไม่นิ่ง เบรกธุรกิจลงทุนการตลาด ใช้เงินซื้อสื่อ ผู้บริโภคไร้อารมณ์ใช้จ่าย

นายไตรลุจน์ นวะมะรัตน นายกสมาคมมีเดีย เอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจโฆษณามูลค่าตลาดโดยรวมเกือบแสนล้านบาท ไตรมาสแรกติดลบกว่า 1% ซึ่งถือว่าค่อนข้างดี เพราะเดิมคาดการณ์ตัวเลขจะติดลบมากกว่านี้ ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 คาดว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ทว่าหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น แต่การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้อารมณ์ของผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอยยังไม่มา การค้าขายยังไม่บูม ทำให้ภาคธุรกิจยังไม่กล้าลงทุนใช้เงินในการทำตลาดมากนัก

ทั้งนี้ หากการเมืองยังไม่มีข้อยุติ จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในภาพรวมตลอดจนการลงทุนต่างๆ โดยผู้ประกอบรายเล็กไม่กล้าลงทุนออกสินค้าใหม่ เพราะหากออกและเปิดตัวทำตลาด ไม่มีลูกค้าซื้อสินค้า จะกระเทือนยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าอีกทอดหนึ่ง การไม่เพิ่มสินค้าใหม่ๆเข้าสู่ตลาด ยังสะเทือนบรรดาเอเยนซี ลามถึงการโฆษณา และซื้อสื่อประชาสัมพันธ์บนสื่อต่างๆ เช่น สิ่งพิมพ์ เว้นแต่สินค้าที่ต้องทำตลาดตามช่วงฤดูกาลหรือซีซันนอล เช่น เครื่องดื่มที่ทำตลาดกันมาก

“ทุกฝ่ายรอให้การเมืองชัดเจนก่อน เมื่อการเมืองไม่จบธุรกิจได้รับผลกระทบหมด หลายคนก็อึดอัด ยิ่งเอเยนซี่ ลูกค้าของเราจะใช้เงินเมื่อผู้บริโภคมีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย แต่กลับพบว่าลูกค้าที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคเคลื่อนตัวเร็ว หรือ FMCG ใช้เงินและโฆษณาจำนวนมาก ยังชะลอ กลายเป็นสินค้าที่ไม่ขยับตัวเร็ว ออกสินค้าใหม่ช้า เพราะออกไปยอดขยาไม่ตูมตามเหมือนเทมื่อก่อน สินค้าทดแทนในตลาดมีอยู่จำนวนมาก ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าท้องถิ่นหรือโลคัล ที่ราคาไม่สูงมากนักแทนไม่ต้องซื้อแพง อย่างไรก็ตาม ถ้าทุกอย่างสดใส ผู้บริโภคตื่นตัวเริ่มใช้เงิน สินค้า FMCG ก็จะกลับมาใช้เงิน เพื่อแข่งขันการค้าขาย ยิ่งซีซันยิ่งต้องใช้เงินหนัก”

ทั้งนี้ เอเยนซีต้องปรับตัว โดยคิดค่าบริการการใช้สื่อใหม่ๆ เพิ่ม เช่น ออนไลน์ ซึ่งต้องอาศัยคนทำงานที่เก่ง เชี่ยวชาญเฉพาะมากขึ้น ทำให้มีการชาร์จค่าบริการแพงกว่าการใช้สื่อออฟไลน์ เพื่อทำให้ธุรกิจยังมีกำไรหมุนเวียนในบริษัท รวมถึงการหันไปให้ความสำคัญกับสื่อที่ยังเติบโต เช่น สื่อออนไลน์ สื่อโฆษณานอกบ้าน และสื่อในโรงภาพยนตร์ ขณะเดียวกันอย่ายึดติดกับ “ตัวเลข” เม็ดเงินโฆษณาอย่างเดียว เพราะทั้งหมดเป็นเงินก้อนเดิม ที่มีการโยกย้ายไปยังแพลตฟอร์มหลากหลายมากขึ้น

นายไตรลุจน์ กล่าวอีกว่า สมาคมฯยังคาดหวังสถานการณ์บ้านเมืองจะสงบเรียบร้อย และภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา หรือการใช้จ่ายเงินผ่านมีเดียต่างๆในปี 2562 จะดี เพราะจากต้นปีเห็นการอั้นการใช้จ่ายมาแล้ว แต่ยอมรับว่าปัจจุบันไม่ว่าใครขยับตัวดำเนินการอะไร จะมีผู้คนที่มีความอ่อนไหว คิดต่าง ออกมาคัดค้าน วิจารณ์ประเด็นต่างๆกัน ทำให้สังคมไม่ค่อยมีความราบรื่นเท่าที่ควร

“ปีนี้ยังหวังอุตฯมีเดียจะเติบโตเป็นบวกได้ หรือเลวร้ายสุดไม่บวก ก็ขออย่าเป็นลบ ให้ภาพรวมธุรกิจทรงๆตัวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเผชิญความเหนื่อยยากมาพอสมควร ส่วนสิ่งที่ยังเป็นห่วงคือการใช้จ่ายเงินของลูกค้าเจ้าของสินค้าและบริการต่างๆ เพราะยุคนี้โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว การแข่งขันสูง ลูกค้าต้องปรับตัวในการใช้สื่อให้ทัน ทำงานเป็นทีมมากขึ้น เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี หากตลาดไม่ดี เอเยนซี่กระทบ สื่อก็พลอยกระทบ เผชิญการขาดทุนตามไปด้วย” นายไตรลุจน์ กล่าว