'ใช้สอยยามชรา' เป้าออมเงิน

'ใช้สอยยามชรา' เป้าออมเงิน

สำนักงานสถิติแห่งชาติเผยผลการสำรวจการออมของครัวเรือนไทยไตรมาส 3 ปี 2561 ประมาณ 21.6 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ พบว่ามีการออมเงิน 15.7 ล้านครัวเรือน หรือ 72.9% และอีก 5.8 ล้านครัวเรือน หรือ 27.1% ไม่มีเงินออม

เมื่อพิจารณาวิธีการจัดสรรเงินออมของครัวเรือนที่แตกต่างกัน โดยครัวเรือนจะนำเงินที่ได้ไปจับจ่ายใช้สอยก่อนเมื่อเหลือแล้วจึงจะ
เก็บออม 38.9% ในขณะที่ครัวเรือนที่แบ่งส่วนของเงินออมไว้ก่อนที่จะนำเงินไปจับจ่ายใช้สอยคือ 22.6% ในขณะที่หลายครัวเรือนยังคงมีความไม่แน่นอนในการจัดสรรเงินออม ซึ่งอาจเกิดจากหลายๆ ปัจจัย เช่น ปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น หรืออาชีพยังไม่มีความมั่นคงพอที่จะวางแผนการออม

2_12

เมื่อเปรียบเทียบการออมในปี 2561 เพิ่มอย่างเห็นได้ชัดจากปี 2559 ถึง 6.2% (ปี 2559 66.7% และปี 2561 72.9% ตามลำดับ) วัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้จ่ายในยามชราหรือเกษียณอายุ 42.1% เพื่อใช้จ่ายยามเจ็บป่วย/ฉุกเฉิน 32.0% เพื่อใช้จ่ายเมื่อเว้นว่างจาก
ฤดูกลเก็บเกี่ยว/ทำการเกษตร/ทำธุรกิจ 9.7% เพื่อใช้ในการศึกษา 7.9% จัดหาเครื่องอำนวยความสะดวกและยานพาหนะ 4.2% เพื่อมีบ้านเป็นของตัวเอง 3.7% และอื่นๆ อีก 0.4% เช่น ค้ำประกันเงินกู้ มรดก ท่องเที่ยว