'เรืองไกร' จ่อร้องผู้ตรวจฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กฏหมายเลือกตั้ง

'เรืองไกร' จ่อร้องผู้ตรวจฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กฏหมายเลือกตั้ง

"เรืองไกร" จ่อร้องผู้ตรวจฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กฏหมายเลือกตั้ง เขียนสับสนตีความได้หลายทาง หวั่น เปิดประชุมสภาฯ ครั้งแรกไม่ได้

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.62 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 เม.ย. เวลา 10.30 น. ตนจะไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ (ศร.) พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในกรณีการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128

เนื่องจากข้อความในกฎหมายดังกล่าว วรรคหนึ่ง (2) ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 (2) กรณีกำหนดการคำนวณ ส.ส. พึงมีได้ แต่ในกฎหมายลูกกลับปรากฏคำว่า ส.ส. พึงมีได้ในเบื้องต้น นอกจากนี้ยังเห็นว่าเนื้อหารัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ก็ขัดกันเอง คือ วรรค 3 กับวรรค 1 (4) และมาตรา 91 วรรค 1 (4) ของรัฐธรรมนูญกับ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 (5) ขัดกับมาตรา 83 วรรค 1 (2) ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เพราะถ้า กกต. จะคำนวณให้ครบ 150 คน ก็อาจขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 วรรค 1 (4)

“ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่ กกต. ออกมาระบุว่าถึงทางตันแล้วจนต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งประเด็นทั้งหมดนี้อาจส่งผลกระทบต่อการประกาศรับรองผลเลือกตั้งร้อยละ 95 ไม่ทันวันที่ 9 พ.ค. และถึงแม้จะประกาศผลได้แต่จำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อ ก็อาจจะมีจำนวนไม่ถึง 150 ทำให้ ส.ส. โดยรวมมีจำนวนไม่ถึงร้อยละ 95 จาก ส.ส. ทั้งหมด 500 คน ซึ่งอาจทำให้เปิดประชุมสภาฯ ครั้งแรกไม่ได้ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นบางส่วนมาจากการร่างรัฐธรรมนูญไม่รอบคอบ และนำความไม่รอบคอบนั้นมาร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. เมื่อมีการเลือกตั้งจริงทำให้เกิดการตีความจากหลายฝ่ายจนเกิดความสับสนวุ่นวาย” นายเรืองไกร ระบุ

นายเรืองไกร กล่าวถึงปัญหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ของ กกต. ตามมาตรา 12 ของ พ.ร.ป.กกต. ในการออกประกาศ กกต. เรื่องจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดพึงมี ว่า การที่ กกต. ใช้จำนวนราษฎร ซึ่งไม่ได้มีสัญชาติไทยมาคิดคำนวณหาจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี นั้นอาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 ประกอบมาตรา 85 หรือไม่ และอาจเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับมาตรา 77 ที่ห้ามไม่ให้ผู้ใดซึ่งไม่มีสัญชาติไทยเข้ามามีส่วนช่วยเหลือในการหาเสียงเลือกตั้ง หรือกระทำการใดๆ อันเป็นคุณเป็นโทษกับผู้สมัครพรรคการเมืองใด