ลุ้นบวก

ลุ้นบวก

SET Index เมื่อวันศุกร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากใกล้ช่วงวันหยุดยาว

โดยหุ้นกลุ่ม Big Cap ที่หนุนตลาดเมื่อวันศุกร์ได้แก่ SCC BTS AOT  ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,660.45 จุด (+1.36 จุด) Volume 3.3 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -1,072.01 ลบ. TFEX Net -3,945 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -990 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+สหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านในเดือนเม.ย. ปรับตัวขึ้น 1 จุด แตะระดับ 63 สูงสุดในรอบ 6 เดือน และสอดคล้องตามคาด

+จีนรายงาน GDP ไตรมาส 1 ขยายตัว 6.4% อยู่ในกรอบเป้า 6-6.5% แต่ต่ำกว่า GDP ปี 61 ที่ขยายตัว 6.6%  และเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.ขยายตัว 8.7%YoY

- ดาวโจนส์เปลี่ยนแปลงไม่มากในช่วงสองวันหยุด เพราะผิดหวังผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงหลัง ส่วนกลุ่มบริการสุขภาพ ซึ่งรวมถึง จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เผยผลประกอบการดีเกินคาด

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากที่มีสัญญาณว่า รัสเซียและกลุ่มโอเปกอาจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดโลกเพิ่มขึ้น

- FED เผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.1% ในเดือนมี.ค. หลังผลผลิตเหมืองแร่ลดลงต่อเนื่อง

- สศช.เตรียมปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่จากสงครามการค้ายืดเยื้อฉุดส่งออกเติบโตต่ำ

-FTA 'เวียดนาม-อียู'ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2562 มีข้อตกลงเปิดตลาดสินค้า บริการ และการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ทำอุตสาหกรรมหลายรายการย้ายฐานการผลิตไปเวียดนาม

- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 8.97 พันลบ. ค่าเงินบาท 31.81 บาท/US

** จับตาศาลรธน.รับ/ไม่รับคำร้องกกต.ที่ขอให้วินิจฉัยการจัดสรรส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีบวกต่อขานรับตัวเลขศก.ต่างประเทศทั้งสหรัฐและจีนที่ออกมาดี แต่มีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันลดลงส่งผลลบเชิงจิตวิทยากับหุ้นกลุ่มพลังงาน และความไม่ชัดเจนของปัจจัยการเมือง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,654-1,670 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก(CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว(AOT CENTEL ERW) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH) กลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO RATCH)
  • หุ้นเข้าใหม่คำนวณในดัชนี MSCI-EM : CENTEL, RATCH, INTUCH, DTAC
  • หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุน : SCC EGCO CPN LH TU BANPU BH BBL BDMS KBANK
  • IAA เผยหุ้นเด่นจากผลสำรวจนักวิเคราะห์ : AOT BBL CPALL SCC STEC

หุ้นรายงานพิเศษ

CHAYO (ราคาปิด 4.24 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 4.80)

  • ปักธงไตรมาส 2/2562 ซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้าบริหารเพิ่ม มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท เล็งรับงานไม่น้อยกว่า 25-50% เสริมฐานมูลหนี้คงค้างในมือ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 9 หมื่นล้านบาท ใส่เกียร์ธุรกิจปล่อยสินเชื่อเต็มสูบไตรมาส 3/2562 เป็นต้นไป แย้มอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนธุรกิจอื่นๆ ที่หนุนกำไรเติบโต คาดได้ข้อสรุปครึ่งหลังปี 2562 (ที่มา : ทันหุ้น)
  • ความเห็น : หลังจากบริษัทได้ออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 40 ล้านหุ้น เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 153.2 ลบ.จะเป็นการเพิ่มฐานทุน และเพิ่มอำนาจในการกู้ยืมเงิน โดยปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส 1 บริษัทได้ซื้อหนี้จากสถาบันการเงินทั้งสิ้นแล้วราว 200 ลบ.และเราคาดว่าบริษัทจะสามารถซื้อกองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพได้ตามแผนงานของปี 62 มูลค่าทั้งสิ้นราว 10,000 ลบ. อีกทั้งบริษัทยังมีแผนดำเนินธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ โดยคาดจะใช้เงินลงทุนราว 200-250 ลบ. คาดกำไรสุทธิปี 62 อยู่ที่ราว 108 ลบ. +26%YoY

ส่องหุ้น

           ORI         แนวรับ 7.60, 7.35 บาท           แนวต้าน 8.10, 8.75 บาท

           BEM        แนวรับ 9.90 บาท                    แนวต้าน 10.20, 10.70 บาท

           PRM        แนวรับ 6.90,6.60 บาท             แนวต้าน 7.20 , 7.80 บาท

หุ้นมีข่าว   

·         BEC (ราคาปิด 8.05 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 7.26) ยังไม่มีแผนคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล เดินหน้าแผนบริหาร 3 ช่องพลิกฟื้นกลับมามีกำไร ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้เรตติ้งของช่อง 3HD ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจากรายการละคร ซึ่งการจัดอันดับเรตติ้งในเดือน มี.ค.62 พบว่าช่อง 3 HD มีเรตติ้งเป็นอันดับ 2 ต่อเนื่องจากเดือน ก.พ.62 ขณะที่ช่อง 28SD และ ช่อง 13 แฟมิลี่ ยังไม่ได้ทำรายได้มากนัก มีเพียงช่อง 3HD ที่ทำรายได้เป็นหลัก  (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         CHG (ราคาปิด 1.91 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 2.37) ฉายแววผลงานโค้งแรกแจ่ม รับผลดีคนเปลี่ยนเข้าโรงพยาบาลตรวจเช็กสุขภาพมากขึ้น โรคระบาดรุนแรง-ขยายตัว ปูพรมรับรายได้จากโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง เข้าเต็มปี วางงบ 300 ล้านบาท รองรับการปรับปรุงอาคารเดิม เตรียมเคาะผู้รับเหมาสร้างอาคารศูนย์รังสีรักษา มูลค่า 260 ล้านบาท ปลายไตรมาส 2/2562 นี้ ปักธงรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15% ยังเป็นไปตามแผน (ที่มา : ทันหุ้น)

·         BTS (ราคาปิด 11.60 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 11.48)ขานรับข่าวดี คสช.ใช้ ม.44 เร่งการร่วมทุนส่วนขยายสายสีเขียว จับตาผลงานไตรมาส 4/2562 (ม.ค.-มี.ค. 62) เหตุรับรู้งาน O&M คาดอยู่ที่ราว 860 ล้านบาท จากเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้เต็มไตรมาส ชูธุรกิจรถไฟฟ้ายังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท คาดกำไรจากการดำเนินงานเติบโต 20% ต่อปี  (ที่มา : ทันหุ้น)

·         จับตากลุ่มแบงก์ทยอยแจ้งงบ Q1/2562 พรุ่งนี้ (18 เม.ย.62) ประเดิมด้วย TISCO-SCB-TMB-CIMBT-LHFG ส่วน KBANK ลุ้นแชมป์มีกำไรสูงสุดที่ 8,772 ล้านบาท โต 24.7% จากไตรมาสก่อน, BBL อันดับ 2 คาดมีกำไร 8,399 ล้านบาท และ SCB อันดับ 3 คาดมีกำไร 8,371 ล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)

·         UNIQ (ราคาปิด 9.90 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 13.68) ตุน Backlog 3 หมื่นลบ. คาดรับรู้ฯปีนี้ 1.2-1.3 หมื่นลบ. ,ลุ้นรัฐประมูลงานหลายโครงการดันรายได้แตะ 2 หมื่นลบ.ปีนี้(ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         MODERN เตรียมเปิด รพ.โรคมะเร็งใน จ.อุบลราชธานี มิ.ย.นี้ มั่นใจรายได้ปี 62 โต 10-15% โชว์แบ็กล็อกแน่น 2,200 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปี 62 ราว 60-70% (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         กรมธนารักษ์นัดผู้บริหารท่าอากาศยานไทย(AOT) สรุปตัวเลขค่าเช่าใหม่ 5 สนามบิน รวม 1.2 พันล้านบาท จากเดิม 1 พันล้านบาท คิดจากส่วนแบ่งรายได้ 5.5% ส่วนโครงการร้อยชักสามลงตัว หลังไม่เข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฉบับใหม่ (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         SNC (ราคาปิด 13.60 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 15.30) คาดบุ๊กกำไรขายอาคารและโรงงาน Q4/2562 พร้อมเร่งสร้างโรงงานใหม่ที่จังหวัดระยอง รองรับลูกค้าเพิ่ม คาดรายได้ปี 2562 เติบโตไม่เกิน 10% ออเดอร์ยังไหลเข้าต่อเนื่อง โบรกคาดกำไรไตรมาส 1/2562 ที่ 127 ล้านบาท ยิลด์ปันผลแรงกว่า 7% ภาพธุรกิจมั่นคง ฐานะการเงินแกร่ง (ที่มา : ทันหุ้น)

·         ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนผู้ถือหุ้น RCI ศึกษาข้อมูลกรณี IFA เห็นว่าไม่ควรอนุมัติการจำหน่ายที่ดินเปล่ามูลค่า 20 ล้านบาทให้ DCC ในการประชุมผถห. 22 เม.ย. (ที่มา SET NEWS)

·         ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA)  ไฟเขียว DTC เข้าลงทุนโครงการปทุมวันและโครงการ ASAI Chinatown พร้อมขายโครงการโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ เข้า DREIT (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         GL กางแผนปี 62 ลุยขยายสินเชื่อ เน้นเพิ่ม พอร์ตในต่างประเทศ พร้อมคุม NPL ต่ำกว่า 5% ย้ำ คดีเจทรัสต์ไม่กระทบ โชว์สินทรัพย์สูงกว่า หนี้สินกว่า 5.7 พันล้านบาท (ที่มา มิติหุ้น)